รีเซต

CGSI ระบุ HANA กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาด Q3/68 กลับมาฟื้นตัว

CGSI ระบุ HANA กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาด Q3/68 กลับมาฟื้นตัว
ทันหุ้น
7 ตุลาคม 2568 ( 14:19 )

#HANA #ทันหุ้น-ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ CGSI ได้พากลุ่มนักลงทุนสถาบันไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตชิปของบริษัท Powermaster Semiconductor (PMS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเกาหลีใต้ที่ HANA ถือหุ้น 100% และประชุมร่วมกับ CEO ของ PMS ทำให้เชื่อว่า PMS กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวและน่าจะขาดทุนลดลงในปี 68 จากคำสั่งซื้อ SiC (silicon carbide) MOSFET (metal-oxide-semiconductor field-effect transistor) สำหรับผู้ผลิตระบบยานยนต์ ล่าสุดในเกาหลีใต้ รวมทั้งจากการเปิดตัวโมดูลพลังงาน (power module) next-gen ในครึ่งปีหลัง 68 และต้นปี 69

ขณะเดียวกัน CEO ของ PMS กล่าวว่า ราคาของ SiC substrate ปรับลงอย่างมากจากสถิติสูงสุดที่ 2,500-3,000 เหรียญสหรัฐ/เวฟอร์ในปี 65-66 เหลือเพียง 350-500 เหรียญสหรัฐ/เวเฟอร์ในไตรมาส 3/68 แต่เชื่อว่าคุณสมบัติที่เทียบเคียงได้กับ Si-IGBT จะทำให้การนำ SiC มาใช้ทดแทนขยายขอบเขตออกไปจาก EV inverter ระดับพรีเมียมไปสู่ EV ในตลาด mass, DCFC (direct current fast charger) และ OBC (onboard charger) ซึ่งจะทำ ให้ SiC เป็นที่ต้องการในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้มองว่าการที่ราคา SiC มีเสถียรภาพมากขึ้น จะช่วยจำกัด downside จากการตัดจำหน่ายสินค้าคงคลัง

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ทำประมาณการยอดขายผลิตภัณฑ์ SiC ของ PMS ที่ 90 ล้านบาท (ประมาณ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ)ในปี 68 หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายรวมภายใต้สมมติฐานที่ 1.กำลังการผลิต SiC MOSFET อยู่ที่ประมาณ 4,000 เวเฟอร์/เดือน 2.ราคาขายเฉลี่ยของ die ขนาด 35 มิลลิเมตรอยู่ที่ 2.5 เหรียญสหรัฐ เท่ากับคาดว่าสายการผลิต SiC มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 12% ในครึ่งปีแรก 68 และเนื่องจากการผลิตซิลิคอนใช้กำลังการผลิตเกือบเต็ม 100% ในครึ่งปีแรก 68 รายได้ที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 68 จึงต้องมาจาก SiC

ตามประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ บริษัทจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBITDA ได้ เมื่ออัตราการใช้กำลังการผลิตของ SiC อยู่ที่ประมาณ 50% ภายใต้สมมติฐานที่ราคาขายเฉลี่ยของ MOSFET รุ่นใหม่สำหรับยานยนต์อยู่ที่ราว 3.25 เหรียญสหรัฐ แต่คาดว่าอาจต้องใช้เวลามากกว่า 2-3 ปี กว่าที่ปริมาณคำสั่งซื้อจะถึงจุดคุ้มทุนดังกล่าว ขณะที่ PMS น่าจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับทำกำไรสุทธิได้ เมื่ออัตราการใช้กำลังการผลิตสูงกว่า 70% และราคาขายเฉลี่ยรวมสูงกว่า 4.5 เหรียญสหรัฐ โดยอิงต้นทุนเวฟอร์และผลผลิตในปัจจุบัน

คำสั่งซื้อที่ได้มาล่าสุดและอัตราการใช้งานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะทำให้ยอดขาย SiC ของ PMS เติบโต 168% yoy เป็น 247 ล้านบาทในปี 69 จึงคาดว่า PMS จะขาดทุนสุทธิลดลง 21% hoh เหลือ 305 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง 68 ส่วนขาดทุนทั้งปี 68 น่าจะลดลง 43% yoy เป็น 693 ล้านบาท และลดลงอีก 23% yoy เหลือ 534 ล้านบาทในปี 69 อย่างไรก็ตาม ปรับประมาณการกำไรปกติต่อหุ้นของ Hana ลง 12% ในปี 68 สะท้อนรายได้ของธุรกิจหลักฟื้นตัวช้ากว่าคาด

**แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 25 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า มีสัญญาณที่ชี้ว่าผลกำไรได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดว่าในไตรมาส 3/68 HANA จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติฟื้นตัวมาที่ 232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345% yoy และ 52% qoq จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและส่วนแบ่งขาดทุนจาก PMS ลดลง แม้ผลประกอบการของธุรกิจหลักมีแนวโน้มอ่อนตัวระยะสั้นช่วง 6-12 เดือน แต่เชื่อว่า HANA มีการประเมินมูลค่าน่าสนใจ P/E 13.6 เท่าในปี 69 เทียบค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 20 เท่า ทำให้ความเสี่ยง-ผลตอบแทนเอนไปทาง upside

อีกทั้ง PMS น่าจะขาดทุนลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อ sentiment และ EPS จึงยังแนะนำ “ซื้อ” HANA ที่ราคาเป้าหมาย 25 บาท เท่ากับ P/E 15 เท่า ในปี 69 (-1SD จากค่าเฉลี่ยห้าปี) แต่จะมี downside risk หากยอดขายของ PMS เติบโตช้ากว่าคาดและอุปสงค์ของธุรกิจหลักยังคงอ่อนตัว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง