ไทยจัดพิธีเปิดตัว 'กองทุนพิเศษความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง' ประจำปี 2023
กรุงเทพฯ 24 มี.ค. (ซินหัว) -- วันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) มีการจัดพิธีเปิดโครงการของไทย (Launching Ceremony) ภายใต้กองทุนพิเศษล้านช้าง-แม่โขง เนื่องในโอกาสสัปดาห์ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง ประจำปี 2023 ณ กระทรวงการต่างประเทศของไทย
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นร่วมกันโดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยและกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยมีคณะผู้แทนฝ่ายรัฐบาลและหน่วยงานดำเนินโครงการของไทย พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย คณะผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา เมียนมา และเวียดนามประจำประเทศไทย เข้าร่วมรวมราว 80 คน
หานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่าจีนร่วมกับไทยและประเทศอื่นๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำล้านช้าง-แม่โขง ดำเนินการตามแนวคิด "การพัฒนาต้องมาก่อน การปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม ทำได้จริง และมีประสิทธิผล การเปิดกว้างและการมีใจกว้าง" นับตั้งแต่เปิดตัวกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง เมื่อ 7 ปีก่อน และร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาระดับสูง และมีบทบาทสำคัญในการรักษาความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยโครงการที่เปิดตัวร่วมกันในครั้งนี้รวม 18 โครงการจะเป็นแรงผลักดันใหม่สำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทย รวมถึงมีส่วนสนับสนุนความสัมพันธ์จีน-ไทย และเพิ่มนัยสำคัญให้ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง
หานเสริมว่าการที่สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการและเดินทางเยือนไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สร้างยุคใหม่แห่งประประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-ไทย โดยจีนยินดีทำงานร่วมกับไทยเพื่อสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ดำเนินตามแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) และแผนริเริ่มความมั่นคงโลก (GSI) อย่างแข็งขัน ตลอดจนผลักดันความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขงสู่ระดับใหม่
ด้านศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงฯ และชัยรัตน์ ศิริวัฒน์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงฯ ต่างกล่าวชื่นชมบทบาทเชิงบวกของกองทุนพิเศษล้านช้าง-แม่โขงในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาค โดยไทยจะรับตำแหน่งประธานร่วมความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขงร่วมกับจีนในปีนี้ และเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาค สนับสนุนการฟื้นตัวหลังโรคระบาด ตลอดจนรักษาความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป