เช็กก่อนเชื่อ! รัฐบาลปรับ "เบี้ยผู้สูงอายุ" รับเงินเพิ่ม 2,000 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ 2565
ผู้สูงอายุจะได้รับ "เบี้ยผู้สูงอายุ" เป็นเงินช่วยเหลือ 600-1,000 บาท ทุกเดือน โดยลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ ได้ที่เทศบาล องค์การบริการส่วนตำบล(อบต.) สำนักงานเขตที่อาศัยอยู่ได้ทันที สามารถเลือกรับเงินสด หรือโอนเข้าบัญชีได้ โดยล่าสุดมีกระแสข่าวรัฐบาล ปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่ม 2,000 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ 2565
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง รัฐบาล ปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่ม 2,000 บาท ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ข้อมูลซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า มีเฮทั่วไทย รัฐบาลให้ของขวัญปีใหม่ปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แจก 2,000 ให้เช็กด่วนนั้น ทางสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า
จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยกลุ่มผู้สูงอายุ และสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยให้เป็นนโยบายและข้อดำริจากนายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ พิจารณาหาแนวทางเพิ่ม "เงินอุดหนุนผู้สูงอายุ" ในรูปแบบขั้นบันได เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้ แต่ต้องรอการพิจารณาหาแนวทางเพิ่ม "เงินอุดหนุนผู้สูงอายุ" ในรูปแบบขั้นบันได ของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ขณะนี้ยังคงมีการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายเดือนตามเกณฑ์เดิม ดังนี้
- อายุ 60 - 69 ปี จะได้รับ 600 บาท
- อายุ 70 - 79 ปี จะได้รับ 700 บาท
- อายุ 80 - 89 ปี จะได้รับ 800 บาท
- อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้กลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นภารกิจด้านผู้สูงอายุของกระทรวง พม. ตามนโยบายของรัฐบาล
“เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” หรือ “เบี้ยยังชีพคนชรา”
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคือ สวัสดิการที่รัฐมีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนับว่าเป็นอีกสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ภาครัฐจัดสรรไว้ให้กับผู้สูงอายุคือ บุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน โดยในแต่ละปีจะมีการเปิดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ๆ มาลงทะเบียน
สำหรับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเองได้ ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน ของทุกปี สำหรับผู้ที่ต้องไปลงทะเบียนใหม่ในรอบปีนี้คือผู้ที่เกิดก่อน 2 กันยายน 2506 ถ้าเกิดหลัง จากนี้ต้องรอในรอบถัดไปก็คือปีหน้า
คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือ "เบี้ยผู้สูงอายุ"
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ตัวอย่างการคำนวณอายุ เช่น การลงทะเบียนของปี 2560 ต้องเป็นผู้สูงอายุที่เกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2501 ส่วนผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ
- ต้องไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ไปในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น ที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
- หากมีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเคยลงทะเบียนไว้แล้ว แต่มีการย้ายภูมิลำเนา จะต้องลงทะเบียนใหม่ในภูมิลำเนาที่ย้ายมาใหม่
- ผู้ที่เคยลงทะเบียนไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงใหม่ทุกปี เว้นแต่มีการย้ายภูมิลำเนา หรือมีข้อมูลที่ต้องแก้ไขบ้างอย่าง
- สำหรับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเองได้ ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน ของทุกปี
ลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุที่ไหน
สามารถติดต่อได้ที่ เทศบาล องค์การบริการส่วนตำบล(อบต.) สำนักงานเขต ในพื้นที่ที่ผู้รับสิทธิ์มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หากผู้สูงอายุมีการย้ายภูมิลำเนาไปพื้นที่อื่น จะต้องไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยยังชีพฯ กับสำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่โดยเร็ว เพื่อจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพฯ อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคนที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่แล้ว ก็จะได้รับต่อเนื่องโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ยกเว้นหากมีการย้ายทะเบียนบ้าน ถ้ามีการย้ายทะเบียนบ้านต้องไปแจ้งลงทะเบียนใหม่
เงินผู้สูงอายุเข้าวันไหน
ทางภาครัฐ จะจ่ายให้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ซึ่งถ้าหากวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ตรงกับวันหยุด รัฐจะเลื่อนเวลาการจ่ายเงินเป็นก่อนวันที่ 10 และจะเริ่มได้เงินตั้งแต่เดือนที่ไปลงทะเบียน จะไม่ได้ย้อนหลัง หรือหากต้องการรับเงินสดก็แจ้งกับหน่วยงานได้เลยว่าต้องการรับเงินสด (รับด้วยตัวเอง หรือ รับผ่านคนที่ได้รับมอบอำนาจ)
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ขณะนี้ยังคงมีการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายเดือนตามเกณฑ์เดิม ซึ่งการเพิ่มเงินอุดหนุนผู้สูงอายุ ยังคงต้องรอการพิจารณาหาแนวทาง และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.m-society.go.th หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300
ข้อมูลจาก Anti-Fake News Center Thailand , เพจ เราชนะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ขั้นตอนลงทะเบียน "เบี้ยผู้สูงอายุ" เดือนพฤศจิกายน รับเงิน 600-1,000 บาท ทุกเดือน
- วิธีสมัครรับ 'เบี้ยผู้สูงอายุ-เบี้ยคนพิการ' ทุกเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<