รีเซต

อนุทิน เผย รพ.บุษราคัม รักษาผู้ป่วยโควิดสีเหลืองสะสม 1,154 ราย หายกลับบ้านแล้ว 325 คน

อนุทิน เผย รพ.บุษราคัม รักษาผู้ป่วยโควิดสีเหลืองสะสม 1,154 ราย หายกลับบ้านแล้ว 325 คน
มติชน
30 พฤษภาคม 2564 ( 18:06 )
100
อนุทิน เผย รพ.บุษราคัม รักษาผู้ป่วยโควิดสีเหลืองสะสม 1,154 ราย หายกลับบ้านแล้ว 325 คน
 

วันนี้ (30 พฤษภาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยผู้บริหาร สธ.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล (รพ.) บุษราคัม เมืองทองธานี พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงาน

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า รพ.บุษราคัม ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ และมีอัตราการครองเตียงมากกว่าร้อยละ 70 จากที่ได้ขยายพื้นที่ระยะที่ 2 ทำให้มีเตียงรวมทั้งสิ้น 2,159 เตียง ซึ่งตลอด 16 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14 – 29 พฤษภาคม 2564 มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 72 ราย มีผู้ป่วยสะสม 1,154 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 325 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 780 ราย โดยผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้ส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลสังกัด สธ. เครือข่ายโรงเรียนแพทย์ และกรมการแพทย์ 49 ราย เป็นการช่วยคลี่คลายการขาดแคลนเตียง และช่วยให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานคร ดูแลรักษาผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างเต็มที่

 

นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ ทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท (MCATT) ได้มีการเฝ้าระวังประเมินสุขภาพจิตในผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา เพื่อประเมินสถานการณ์ สภาพปัญหาผลกระทบทางจิตใจ นำไปวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสม โดยตั้งแต่วันที่ 14 – 29 พฤษภาคม 2564 พบผู้ป่วยมีอาการนอนไม่หลับ วิตกกังวล เนื่องจากต้องมีการปรับตัว และมีความเป็นห่วงบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีการติดเชื้อในครอบครัว บางราย
ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากการติดเชื้อ จึงทำให้เกิดความเครียด ทางทีมสุขภาพจิตจึงได้เฝ้าระวังและดูแลให้คำปรึกษา ส่วนผู้ป่วยที่มีประวัติจิตเวช 2 ราย ได้รับการดูแลจนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 1 ราย และส่งต่อรักษาตามอาการอีก 1 ราย

 

“การทำงานของบุคลากรที่ รพ.บุษราคัม หรือในโรงพยาบาลสนามทุกพื้นที่ เป็นการทำงาน
ที่ไม่เหมือนกับงานประจำในโรงพยาบาล ขอบคุณและส่งกำลังใจให้ทุกๆ คน ขอให้ศึกษาเรียนรู้ระบบงาน
การประสานงาน และแบ่งปันข้อมูลความรู้ซึ่งกันและกัน ถือเป็นประสบการณ์สำคัญ สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสร้างประโยชน์ให้แก่การทำงานด้านการแพทย์และสาธารสุขต่อไปในอนาคตได้” นายอนุทิน กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง