ถึงเวลารับเหมางานเข้า SEAFCOคว้า4โปรเจ็กต์

ทันหุ้น – SEAFCO โชว์ศักยภาพคว้างานเอกชนรวดเดียว 4 งานใหม่ช่วงเดือนธันวาคม รวม 105 ล้านบาท จับตางานรัฐเข้า หลัง รฟท. อนุมัติรถไฟทางคู่ 1.28 แสนล้านบาทแล้ว ด้านนักวิเคราะห์มองบวกหุ้นรับเหมาทั้ง CK, STEC, ITD, NWR, UNIQ, RT ให้น้ำหนักมากกว่าตลาด ชี้โครงการค้างท่อ 8 แสนล้านบาท อีก 2-3 ปีข้างหน้าหนุน
ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า บริษัทรับงาน 4 โครงการใหม่ในเดือนธันวาคม 2564 รวมค่างานก่อสร้างข้างต้นยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินประมาณ 105,000,000 บาท
ได้แก่ 1.งานกำแพงกันดินในโครงการอาคาร คิงส์บริดส์ ทาวเวอร์ถนนพระราม 3 กทม. ของ บริษัท นันทวัน จำกัด เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่รวมค่าเหล็กเสริม เริ่มงานเดือนพฤศจิกายน 2564 2.โครงการวัน แบงค็อก : ทางเชื่อมต่อทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) (งานเพิ่ม) ถ.วิทยุ กทม ของบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกำแพงกันดิน เริ่มงานต้นเดือนธันวาคม 2564 3.โครงการเดอะ เบส สุขุมวิท 71 ซ.สุขุมวทิ 71 กทม. ของบมจ.แสนสิริ (SIRI) เป็นงานเสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมค่าวัสดุ เริ่มงานกลางเดือนธันวาคม 2564 4.โครงการเมดิคอลคอมเพล็กซ์ รามอินทรา กม.9 ถ.รามอินทรา กทม. ของบริษัท เมดิคอลคอมเพล็กซ์ รามอินทรา จำกัด เป็นงานเสาเข็มแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมค่าวัสดุ เริ่มงานเดือนมกราคม 2565
@หุ้นรับโชครถไฟทางคู่
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มรับเหมา มีมุมมองบวกจากข่าวบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุมัติผลประมูลทางคู่ 1.28 แสนล้านบาท หลังตรวจสอบไร้ฮั้วประมูล โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อผู้ชนะประมูลอย่าง CK, STEC, ITD, และ NWR ซึ่งชนะประมูลในโครงการทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมถึง UNIQ ที่ชนะ 1 สัญญาในโครงการทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม นอกเหนือจากผู้รับเหมาหลัก
นอกจากนี้ยังมองว่าจะเป็นเซนทิเมนต์เชิงบวกต่อ RT เช่นกัน ซึ่งมีโอกาสได้งานซับคอนแทรกต์อุโมงค์ทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สูงมาก โดยบริษัทได้มีการเสนอราคากับผู้รับเหมาหลักไปแล้ว และคาดจะเห็นความชัดเจนการรับงานในไตรมาส 1-2 ปี 2565
@ งานจ่อ 8 แสนล้านบาท
สำหรับกิจการร่วมการค้าระหว่าง CK STEC และบริษัทนอกตลาด ซึ่งชนะประมูล 2 สัญญาโครงการทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่ารวม 4.6 หมื่นล้านบาท หากตั้งสมมติฐานสัดส่วนถือหุ้นใน JV ที่ 50%/40%/10% ฝ่ายวิจัยประเมินโครงการดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย CK อย่างน้อยราว 0.3 บาท และราคาเป้าหมาย STEC ราว 0.20 บาท ตามลำดับ
ให้คงน้ำหนัก “Overweight” กลุ่มรับเหมา จากแนวโน้มการเปิดประมูลโครงการใหญ่ที่มีความคืบหน้าต่อเนื่อง โดยยังมองว่ามีโครงการค้างท่อที่จะทยอยเปิดประมูลในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ารวมสูงถึง 8 แสนล้านบาท สำหรับ Top Pick ได้แก่ CK (ซื้อ/เป้า 25.00 บาท) นอกเหนือจากโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ บริษัทยังมี Catalyst จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งจะเปิดยื่นซอง 27 ธันวาคมนี้ และบริษัทมีโอกาสได้งานสูงมากอย่างน้อย 1 สัญญา