รีเซต

DGX GH200 แพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์น้องใหม่จาก Nvidia

DGX GH200 แพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์น้องใหม่จาก Nvidia
TNN ช่อง16
7 มิถุนายน 2566 ( 11:05 )
74

ในขณะที่ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยุคปัจจุบัน กำลังสร้างความตื่นตะลึงกับผู้คนทั่วโลก ด้วยความสามารถการประมวลข้อมูลและการคิดคำนวณผลลัพธ์ในระดับที่มนุษย์ไม่อาจเทียบได้ แต่ต่อจากนี้ AI อาจจะยิ่งทรงพลังมากยิ่งขึ้นตามเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนา 


โดยล่าสุด อินวิเดีย (Nvidia) บริษัทผู้ผลิตชิประดับโลกที่เพิ่งขึ้นไปเป็นบริษัทในระดับซูเปอร์ลีก ด้วยมูลค่าของบริษัทกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 34,700 ล้านบาท ได้ประกาศเปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์คลาสใหม่ ในงานคอมพิวเท็กซ์ (Computex 2023) หรืองานแสดงเทคโนโลยีสารสนเทศนานาชาติไทเป ในไต้หวัน โดยระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่จะช่วยฝึกฝนโมเดล AI รุ่นต่อ ๆ ไปในอนาคตตัวนี้ ถูกตั้งชื่อว่า Nvidia DGX GH200 ซึ่งทรงประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์ชิป รุ่น DGX A100 ที่เปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก


เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของอินวีเดีย เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบัน กำลังเผชิญกับขีดจำกัดในการพัฒนาระบบ AI ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อเป็นการยกเครื่องทั้งระบบ อินวิเดีย จึงได้เตรียมส่งชิป Grace Hopper หรือ GH200 ซูเปอร์ชิปตัวใหม่สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยปลดล็อกศักยภาพในการพัฒนา AI ให้ได้มากขึ้น ทั้งยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์ DGX GH200 ที่บรรจุชิป Grace Hopper (GH) 200 จำนวน 256 ตัวอีกด้วย



สำหรับ ฟลอปส์ (FLOPS-floating point operations per second) หมายถึงการปฏิบัติการจุดลอยตัวต่อวินาที เป็นหน่วยวัดสมรรถนะในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ฟล็อปส์จะนับจำนวนชุดคำสั่งในการประมวลผลเลขทศนิยมที่สามารถทำได้ใน 1 วินาที นิยมใช้ในวงการคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง โดยตัวแพลตฟอร์ม DGX GH200 สามารถประมวลผลได้ถึง 1 เอกซาฟลอป (Exaflop) ต่อวินาที หมายความว่า เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถคำนวณได้อย่างน้อย 10¹⁸ ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ต่อวินาที 


ทั้งมีหน่วยความจำร่วมขนาด 144 เทราไบต์ (TB) ซึ่ง 1 เทราไบต์ จะเท่ากับ 1000 กิกะไบต์ (GB) มากกว่า DGX A100 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นก่อนหน้าซึ่งเปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อนถึง 500 เท่า, มีขนาดการโอนถ่ายข้อมูล (Bandwidth) มากกว่าถึง 10 เท่า, มีจำนวนทรานซิสเตอร์ไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านตัว และมีความเรียบง่ายในการใช้งานยิ่งขึ้นด้วย กล่าวคือสามารถรวมระบบประมวลผลเข้าด้วยกันให้เป็นเหมือนชิป GPU ตัวเดียวได้นั่นเอง จึงสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วกว่าการเชื่อมต่อ PCIe ถึง 7 เท่า และใช้ไฟฟ้าเพียง 20% จากระบบเดิม ทั้งหมดนี้จะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่านระบบ Nvidia NVLink Switch System เพื่อทำงานร่วมกันเป็น GPU ขนาดใหญ่


ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ DGX GH200 จะถูกใช้เพื่อฝึกฝน ChatGPT และ AI รวมถึงให้กำเนิดโมเดลภาษาขนาดใหญ่ใหม่ ๆ โดยอินวิเดียยังเผยว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google Cloud และ Meta จะเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ๆ สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวใหม่นี้ ขณะเดียวกัน SoftBank ของญี่ปุ่น ก็กำลังมองหาความเป็นไปได้ในการนำ DGX GH 200 มาใช้งานเช่นกัน 



นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่จัดหาอุปกรณ์ให้กับบริษัทอื่น ๆ เท่านั้น แต่อินวิเดียยังประกาศแผนการที่จะสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้หน่วยประมวลผล DGX GH200 ของตัวเองในชื่อ เฮลิออส (Helios) คาดว่าจะเปิดตัวภายในสิ้นปี 2023 โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์เฮลิออส จะประกอบด้วยระบบ DGX GH200 4 ระบบ หรือการใช้ซูเปอร์ชิป GH200 จำนวน 1,024 ตัว เชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน นั่นจะทำให้สามารถแสดงประสิทธิภาพได้ทั้งหมด 4 เอกซาฟลอป ซึ่งจะกลายเป็นซูเปอร์อภิมหาคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง


ที่มาของข้อมูล Newatlas, Engadget

ที่มาของรูปภาพ Developer.Nvidia


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง