รีเซต

"หุ้นสื่อสาร-พลังงาน" พุ่ง ดันตลาดช่วงเช้าบวก แม้แรงเทขายหุ้นแบงก์ฉุดกรอบทางขึ้น

"หุ้นสื่อสาร-พลังงาน" พุ่ง ดันตลาดช่วงเช้าบวก แม้แรงเทขายหุ้นแบงก์ฉุดกรอบทางขึ้น
มติชน
23 พฤศจิกายน 2564 ( 14:07 )
22

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,625.65 จุด ก่อนปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,650.59 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.05 จุด หรือ 0.06% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,654.49 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,649.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 50,892.05 ล้านบาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ดัชนีล่าสุดอยู่ที่ระดับ 180.23 จุด บวก 1.91 จุด หรือบวก 1.07%

 

โดยหุ้นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู ราคาอยู่ที่ 4.80 บาทต่อหุ้น ปรับขึ้น 0.04 บาทต่อหุ้น หรือบวก 0.84%

 

หุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ราคาอยู่ที่ 45.50 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อหุ้น หรือบวก 1.11%

 

หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ราคาอยู่ที่ 213 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มขึ้น 4.00 บาทต่อหุ้น หรือบวก 1.91%

 

โดยนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวบวกอ่อนๆ จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานและไอซีที นำโดยหุ้น PTT, PTTEP, PTTGC และ ADVANC, INTUCH แต่ก็มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง จึงกดดันทางขึ้นของดัชนีหุ้นที่ไปไม่ไกลมากนัก โดยแนวโน้มภาคบ่าย คาดว่สดัชนีจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบ 1,645 – 1,655 จุด โดยแนะนำให้เล่นเก็งกำไรในระยะสั้น เนื่องจากเห็นสัญญาณ Sector Rotation ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด

 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ต้องจับตาผู้กำกับดูแลหลักอย่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะให้ความเห็นอย่างไร โดยเบื้องต้นเราเชื่อว่าอาจมีแรงกระเพื่อมบ้าง แต่ท้ายที่สุดการรวมกิจการน่าจะเกิดขึ้น ทำให้ความผันผวนของราคาคือโอกาสทยอยสะสม ซึ่งมองว่าภาพหลังการรวมกิจการจะสดใส เราคาดการร่วมมือกันจะมีมูลค่าในระดับเกิน 1 หมื่นล้านบาทต่อปีได้ไม่ยาก จากการลดค่าใช้จ่ายด้านทุน (CAPEX) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เพราะการบริหารจัดการคลื่นความถี่และการแข่งขันที่ลดลง

“เราเลือกทรูเป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม เพราะภาพหลังการรวมกิจการจะทำให้การควบรวมนี้เป็นผู้นำตลาดตัวจริง และเข้าสู่รอบการตอบสนองเกิดขึ้นอย่างเต็มตัว ขณะที่ราคายังต่ำกว่าการทำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) พอสมควร ขณะที่ดีแทคเข้าใกล้เทนเดอร์ ออฟเฟอร์แล้ว โดยหากรวมกิจการสำเร็จแล้ว ราคาเหมาะสมมีอัพไซด์อีกประมาณ 20% ส่วนแอดวานซ์ถือเป็นตัวเลือกรอง และเลือกหุ้นแอดเทค ฮับ เป็นหุ้นเด่นขนาดเล็กที่ใด้ประโยชน์จากธีมการรวมตลาดโทรคมนาคมไทย จึงคงน้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด แม้ราคาหุ้นในกลุ่มจะปรับขึ้นร้อนแรง หลังดีแทคและทรูประกาศตึกการศึกษาความเป็นไปได้ในการรวมกิจการ จนใกล้เคียงราคาเหมาะสมแล้ว แต่หากธุรกรรมประสบความสำเร็จ ตัวคูณของกำไรของกลุ่มมีโอกาสถูกปรับเพิ่มขึ้นจากการทำงานร่วมกัยในระยะยาวและการแข่งขันที่ลดลง” นายณัฐพล กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง