สมาคมธนาคารไทย เตือนเศรษฐกิจเสี่ยง เสนอ 4 นโยบายเร่งด่วน

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยวานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี ที่มีนายกรัฐมนตรีมาเยือนสมาคมธนาคารไทย
นายวรภัค ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นการมารับฟังข้อมูลปัญหา และคำแนะนำต่าง ๆ จากสมาคมธนาคารไทย ซึ่งถือว่าเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่ง ที่สามารถสะท้อนสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจไทย ในสายตาของสมาคมธนาคารไทยกำลังเจอปัญหาหลายด้านพุ่งชนกันพอดี
– โครงสร้างเดิมที่เปราะบาง เศรษฐกิจนอกระบบ ยังใหญ่โตถึง 48% ของ GDP เกินกว่าหลายประเทศในเอเชีย ทำให้การจัดเก็บภาษีไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ความเหลื่อมล้ำสูง และค่าเงินบาทถูกโยกด้วยธุรกรรมทอง-คริปโต หนี้ครัวเรือนก็สูงลิ่วกว่า 100% ต่อ GDP รวมทั้งในและนอกระบบ
– ความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ไทยเสมือน “เครื่องยนต์ติดขัด” คาด GDP โตเฉลี่ยแค่ 2.1% ใน 5 ปีข้างหน้า ต่ำสุดในอาเซียน ขณะที่ FDI ไหลเข้าน้อย เงินทุนไทยกลับไหลออกไปลงทุนต่างประเทศแทน
– ภาครัฐที่ท้าทายไม่แพ้กัน กฎหมายและกฎระเบียบมากกว่าแสนฉบับกำลังกลายเป็นภาระ ธุรกิจต้องแบกต้นทุนแฝงสูง ข้อมูลหน่วยงานรัฐไม่เชื่อมกันจนถึงขั้น “หาสาเหตุค่าเงินบาทแข็งค่าไม่ได้” ขณะที่หนี้สาธารณะพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
ข้อเสนอใหญ่จากสมาคมธนาคารไทย สมาคมฯ ชูแพลตฟอร์ม “Reinvent Thailand” เป็นเวทีร่วมมือระหว่างรัฐ-เอกชน-การเงิน แนวคิดคือ “ไม่ใช่คุยแล้วจบ” แต่ต้องมีข้อมูลนำทาง (Data-driven), เจ้าภาพชัดเจน, KPI วัดผล, และแรงจูงใจที่ถูกต้อง เสนอ 3 แนวทางหลัก
1. ภาคประชาชน
– จัดตั้ง JV-AMC ระหว่างธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อซื้อหนี้เสียรายย่อยมาบริหารใหม่
– กำหนดให้ผู้ให้กู้ทุกราย ต้องรายงานข้อมูลเครดิตเข้า NCB แล้วสร้าง National Credit Score เพื่อให้ทุกคนถูกประเมินความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียว
2. ภาคธุรกิจ
– ผลักดันโครงการ “Greenly Made by Thais” (GMBT) เพื่อให้สินค้าส่งออกไทยมีแต้มต่อด้าน ESG และการใช้วัตถุดิบในประเทศ
– มาตรการ “พี่ช่วยน้อง” ให้บริษัทใหญ่ช่วย SMEs ในห่วงโซ่อุปทาน
– ใช้เครื่องมือใหม่ เช่น Digital Lending Platform และ PromptBiz เพื่อลดต้นทุนธุรกิจ
3. ภาครัฐ
– ใช้งบจัดซื้อจัดจ้างปีละ 1.7 ล้านล้านบาท เป็นคันโยกหนุน SMEs และสินค้ากลุ่ม GMBT
– ปรับโครงสร้างกฎระเบียบ ลดขั้นตอน และความซ้ำซ้อน
4 นโยบายเร่งด่วน-มาตรการเสริม
1. ดึงเศรษฐกิจนอกระบบ เข้าสู่ระบบ
2. แก้หนี้ครัวเรือนด้วย AMC และ National Credit Score
3. เพิ่มรายได้ครัวเรือน ผ่านการอัพสกิลและค่าตอบแทน
4. กระตุ้นการลงทุนในประเทศ ดึง FDI และหนุน local content
ส่วน มาตรการเสริม: คือ การใช้ PromptBiz, ปรับ บสย., เครื่องมือช่วย SMEs
นายวรภัค กล่าวว่า ข้อเสนอของสมาคมธนาคารไทยครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงรายงานเชิงเทคนิค แต่คือสัญญาณเตือน ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังถูกล้อมด้วยความเสี่ยงรอบด้าน หากรัฐบาลกล้าลงมือจริงตามแนวทางเหล่านี้ ประเทศไทยยังมีโอกาสสร้างรอบใหม่ของการเติบโต และก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้
“ข้อแนะนำบางอย่าง ท่านนายกฯ ก็มีแนวทางสั่งการให้ท่านรองนายกฯ เศรษฐกิจได้เตรียมนโยบายไว้อยู่แล้ว เช่น การแก้หนี้ภาคครัวเรือน การเสริมสภาพคล่องธุรกิจเอสเอ็มอี การกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทำสั้น แต่ได้ยาว การอำนวยความสะดวกและดึงดูดการลงทุนระยะยาว ในอุตสาหกรรมเป้าหมายจากต่างประเทศ เป็นต้น” รมช.คลัง ระบุ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
