ทางหลวง ทุ่ม 7.7 พันล้าน ผุดถนนเลี่ยงเมืองพนัสนิคม 40 กิโล แก้รถหนึบมาบตพุด เชื่อมชายแดนอรัญฯ
กรมทางหลวง ทุ่ม 7.7 พันล้าน ผุดถนนเลี่ยงเมืองพนัสนิคม 40 กิโล แก้รถหนึบมาบตพุด เชื่อมชายแดนอรัญฯ
ทางหลวง ทุ่ม 7.7 พันล้าน - นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง หรือ ทล. เปิดเผยว่า ทล. ได้ดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญกับประตูการค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและมาบตาพุด และช่วยแยกการจราจรผ่านเมืองพนัสนิคมออกจากการจราจรท้องถิ่นภายในอำเภอพนัสนิคม เพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่หนาแน่นและติดขัด เพิ่มความปลอดภัยในการสัญจรและพัฒนาคุณภาพการให้บริการของระบบทางหลวง รวมทั้งพัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งในเขตอำเภอพนัสนิคม และพื้นที่ใกล้เคียงไปยังจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประตูการค้าชายแดนด่านอรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว
“คาดว่าใช้งบประมาณ 7,732 ล้านบาท ในการก่อสร้าง แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 6,274 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดิน 1,458 ล้านบาท ขณะนี้โครงการผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไปตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อขอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน หากเวนคืนที่ดินแล้ว ก็จะเสนอของบประมาณ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ ปี 2566 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการปปี 2568”
นายสราวุธ กล่าวว่า สำหรับรูปแบบถนนเลี่ยงเมือง มีระยะทาง 41.20 กิโลเมตร โดยจะก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตขนาด 4 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร เกาะกลางแบบกดเป็นร่องกว้าง 9.10 เมตร มีเขตทางกว้าง 60 เมตร รวมระยะทาง 41.20 กิโลเมตร
โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการที่ทางหลวงหมายเลข 315 (ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม) ที่ กม.17+500 ตัดผ่านถนนบ้านกลางเลียบด้านตะวันตกของหมู่บ้านเอื้ออาทร ตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 315 (พนัสนิคม-ชลบุรี) ที่ กม.29+800 มุ่งไปทางด้านใต้ ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 349 ที่ กม.4+300 มุ่งทางด้านตะวันออก ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 3284 ที่ กม.1+800 แล้วมุ่งทางด้านตะวันออกตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 3246 ที่ กม.4+900 และมุ่งหน้าทางทิศเหนือผ่านทางหลวงชนบทสาย ชบ.3104 ที่ กม.8+400 ตัดผ่านทางหลวงชนบทสาย ชบ.3086 ที่ กม.1+400 ตัดผ่านถนนเมืองเก่าอ้อมด้านเหนือของโครงการอนุรักษ์พื้นฟูแหล่งน้ำไร่หลักทอง บรรจบที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 315 (ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม)