สาววัย40 ถูกทักว่าท้อง แต่กลายเป็นตรวจเจอเนื้องอก บิดพันอยู่นอกมดลูก
วันนี้ (17พ.ย.63) นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือนภัย โดยระบุว่า เมื่อเนื้องอกมดลูกที่อยู่ผิวนอกมดลูกบิดขั้ว
เป็นกรณีตัวอย่างเคส ผู้ป่วยหญิงอายุ 40 ปี ไม่มีประวัติเจ็บป่่วยหรืออาการผิดปกติใดๆมาก่อน เพียงแค่เพื่อนที่ทำงาน ทักว่าท้อง ลองซื้อชุดตรวจมาตรวจการตั้งครรภ์ แต่ขึ้นเพียงขีดเดียว แสดงว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ น้ำหนักขึ้นจากปกติ 2 กิโลกรัม จึงตั้งใจไปออกกำลังกาย
ในระหว่างวิ่ง เดิน ออกกำลังกาย รู้สึกเสียวท้องน้อย ปวดบิดๆในท้องขึ้นมาทันที แล้วหายไปสักพัก ต่อมาปวดมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องงอตัว หยุดเดิน กลับบ้านไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน ไม่อยากกินอะไร เพราะรู้สึกคลื่นไส้ จะอาเจียน กินยาพารา พออาการปวดลดลงบ้าง แต่พอผ่านไปสี่ชั่วโมงก็ปวดขึ้นมาอีก จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลสิชล แพทย์เวรห้องฉุกเฉินได้อัลตราซาวด์ในท้องที่ห้องฉุกเฉิน สงสัยมีก้อนในท้องแต่แยกแยะได้ไม่ชัด
จึงได้ส่งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวินิจฉัย ให้อัลตราซาวด์ในท้องโดยละเอียดอีกครั้ง ขอคิวด่วน เมื่อได้ผลอัลตราซาวด์พบว่ามีก้อนหลายก้อน หลายขนาด อยู่ติดกับตัวมดลูก มีอยู่ก้อนหนึ่งที่โตมากกว่า10 เซนติเมตร สงสัยว่าก้อนเนื้อมีขั้วบิดพันกัน จนทำให้เกิดอาการปวดแบบเฉียบพลัน ส่วนตัวมดลูกมีขนาดโตกว่าปกติเพียงเล็กน้อย ต่อมาได้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช
ขอให้ส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม เพื่อความชัดเจนในการวินิจฉัยโรค ในระหว่างรอผล ก็ให้มีการเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดฉุกเฉินไปในคราวเดียวกัน งด น้ำ อาหาร ให้สารนำ้ เกลือแร่ ทางเส้นเลือด จองเลือดไว้ 3 ยูนิต ให้ยาระงับปวดเข้าเส้น ขอจองห้องผ่าตัด
เตรียมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ยาระงับความรู้สึก(วิสัญญีแพทย์) และทีมพยาบาลช่วยผ่าตัด ในขณะเดียวกัน ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมไว้ด้วย เผื่อผ่าตัดเปิดช่องท้องเข้าไปแล้ว อาจจะเป็นอย่างอื่น ที่ไม่ใช่โรคทางนรีเวชอย่างเดียว เช่นตัวก้อนเนื้อ อาจมีผังผืดติดกับลำไส้ใหญ่ หรือก้อนเนื้ออื่นๆ เป็นต้น จนอาจต้องตัดลำไส้ออก จำเป็นต้องอาศัยศัลยแพทย์ช่วยกันเป็นทีม
เมื่อรังสีแพทย์รายงานผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ยืนยันตรงกันกับผลอัลตราซาวด์ ก็พร้อมนำผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด
เมื่อเปิดช่องท้องก็พบว่ามีก้อนเนื้องอกที่ผิวมดลูกหลายก้อน มีก้อนที่ขนาดโตที่สุดขั้วบิดพันกัน จนบวมสีคล้ำกว่าก้อนอื่นๆ มีน้ำเหลืองปนเลือดในช่องท้องประมาณ 50 ซีซี แต่ก้อนยังไม่แตก แพทย์จึงได้ตัดทั้งมดลูก เนื้องอกมดลูก ปีกมดลูก และรังไข่ออกไปด้วย เหลือไว้ 1 ข้าง เพื่อยังคงไว้ให้มีการสร้างฮอร์โมนต่อไปได้อีกระยะ
การผ่าตัดไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก ก็สำเร็จ ไม่ต้องพึ่งศัลยแพทย์ ไม่ต้องให้เลือด แต่หากทิ้งไว้นานกว่านี้ ก้อนที่ขั้วบิดพันกัน อาจแตกก็เป็นเหตุทำให้เสียเลือดมากจนช็อคได้เช่นกัน หลังผ่าตัดผู้ป่วยพักฟื้นอีก5วันก็กลับบ้านได้
เป็นกรณีตัวอย่างเนื้องอกมดลูกที่อยู่ผิวนอกตัวมดลูก ที่ไม่แสดงอาการใดๆมาก่อน จนเกิดภาวะแทรกซ้อนขั้วบิดพันกัน ทำให้มีอาการปวดท้องแบบเฉียบพลัน
การวินิจฉััยโรคเนื้องอกมดลูก ทำได้ไม่ยาก แค่หาโอกาสอัลตราซาวด์ในช่องท้องไว้บ้าง
สาระสุขภาพยามเช้าวันหยุด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE