ใช้คลื่นเสียงสลายมะเร็ง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว

เทคโนโลยีรักษามะเร็งถูกพัฒนาไปไกล จนล่าสุด นักวิทยาศาสตร์พัฒนาวิธีการรักษามะเร็งโดยไม่ต้องผ่าตัดได้แล้ว ด้วยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง หรือ ultrasound โดยล่าสุดในรับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯแล้ว

การค้นพบโดยบังเอิญ

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน การค้นพบครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ เจิ้น ซู นักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน พยายามค้นหาวิธีช่วยให้แพทย์สามารถทำลายและกำจัดเนื้อเยื่อที่เป็นโรคได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เธอจึงคิดใช้คลื่นเสียงความถี่สูง หรืออัลตราซาวด์ เพื่อทำลายเนื้อเยื่อด้วยกลไกทางกายภาพ และได้ทดสอบแนวคิดนี้กับหัวใจของหมู

ระหว่างที่เธอกำลังทดสอบการใช้อัลตราซาวด์กับหัวใจหมู ซูได้เผลอปรับจำนวนคลื่นเสียงต่อวินาทีให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้รบกวนเพื่อนร่วมงานในห้องแล็บ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้เธอประหลาดใจ เพราะนอกจากเสียงจะเงียบลงแล้ว คลื่นอัลตราซาวด์ยังสามารถทำลายเนื้อเยื่อมีชีวิตได้แทบจะในทันที

จากการค้นพบโดยบังเอิญของซู การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงทำลายเนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็ง ถูกเรียกว่า “ฮิสโตทริปซี” (Histotripsy) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์เพื่อรักษามะเร็งรูปแบบใหม่ ช่วยเปิดยุคสมัยของการรักษามะเร็งที่ล้ำหน้าและไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์สามารถกำจัดเนื้องอกมะเร็งด้วยพลังเสียงแทนการใช้มีดผ่าตัด

การรักษาด้วย “ฮิสโตทริปซี”

พูดง่ายๆ ว่า การรักษามะเร็ง ด้วยฮิสโตทริปซี คือ การใช้เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ความเข้มสูง เพื่อทำลายเซลล์เนื้อเยื่อมะเร็งในตับโดยไม่ต้องผ่าตัด เครื่องมือจะปล่อยคลื่นเสียงไปยังบริเวณที่ต้องการ ทำให้เกิด "ฟองอากาศ" ที่ทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งเฉพาะส่วนอย่างแม่นยำ โดยใช้ภาพอัลตราซาวนด์ในการนำทางและติดตามระหว่างการรักษา

โดยข้อดี คือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เพราะไม่มีต้องพักฟื้น ทำให้ผู้ป่วยแทบจะไม่เจ็บตัว

นอกจากนี้ การรักษามะเร็งด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ยังดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) ซึ่งเป็นแนวทางการรักษาที่มุ่งกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็งที่อาจหลบซ่อน หรือต้านทานการตรวจจับตามธรรมชาติของร่างกาย

โดยนักวิจัยบอกว่า เมื่อคลื่นเสียงกำหนดเป้าหมายไปที่ก้อนเนื้อมะเร็งจนเกิดความร้อนและความเสียหาย มันจะช่วยให้มองเห็นเนื้องอกได้ชัดขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อังกฤษเป็นประเทศแรกในยุโรปที่รับรองฮิสโตทริปซี 

องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ให้การรับรองฮิสโตทริปซี สำหรัยการรักษาเนื้องอกในตับ ตั้งแต่ปี 2023 จากนั้นในปี 2024 มีงานวิจัยขนาดเล็กที่ได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัท HistoSonics ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของซูเชิงพาณิชย์ พบว่า วิธีการนี้สามารถทำลายเนื้องอกในตับได้สำเร็จถึง 95 เปอร์เซนต์ แม้ว่าจะมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น ปวดท้องหรือมีเลือดออกภายใน แต่ข้อมูลวิจัยระบุว่าภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ยากและโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย

ล่าสุด ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่อนุมัติให้ใช้เทคโนโลยีฮิสโตทริปซี โดยเริ่มนำมาใช้ในระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้โครงการนำร่อง Innovative Devices Access Pathway เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ๆ