รีเซต

ทำความรู้จัก "การรักษาด้วยปลายเข็ม" โดยแพทย์รังสีร่วมรักษา ทางเลือกใหม่ในการรักษาเนื้องอก

ทำความรู้จัก "การรักษาด้วยปลายเข็ม" โดยแพทย์รังสีร่วมรักษา ทางเลือกใหม่ในการรักษาเนื้องอก
TNN ช่อง16
3 พฤศจิกายน 2568 ( 13:43 )
15

แพทย์รังสีร่วมรักษา (Interventional Radiologist: IR) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “หมอไออาร์” เป็นแพทย์เฉพาะทางที่ใช้ภาพทางรังสี เช่น อัลตราซาวด์, CT Scan หรือ MRI ในการนำทางอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือยาพิเศษเข้าไปรักษาโรคได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ โดยไม่ต้องเปิดแผลใหญ่เหมือนการผ่าตัดแบบเดิม ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง

แตกต่างจากแพทย์รังสีทั่วไปที่เน้นการวินิจฉัยโรคผ่านภาพถ่าย และต่างจากแพทย์รังสีรักษาที่ใช้รังสีฉายเพื่อทำลายเนื้องอก การรักษาของแพทย์ IR เป็นการรักษาแบบ “รุกล้ำน้อย” (minimally invasive) ใช้เพียงเข็มขนาดเล็กเป็นเครื่องมือหลัก


การรักษาด้วยปลายเข็ม (Ablation) ทางเลือกใหม่ในการรักษาเนื้องอก

Ablation คือเทคนิคการ “จี้” หรือทำลายเซลล์ของก้อนเนื้อโดยใช้พลังงานต่าง ๆ ส่งผ่านปลายเข็มขนาดประมาณไม้เสียบลูกชิ้น วิธีนี้เน้นการรักษาเฉพาะจุด ไม่กระทบอวัยวะอื่น และต่างจากการให้ยาเคมีบำบัดที่มีผลต่อทั้งร่างกาย


พลังงานที่ใช้มี 3 รูปแบบหลัก

1. พลังงานความร้อน (Heat Ablation) ใช้คลื่นวิทยุ (RFA) หรือคลื่นไมโครเวฟ ปล่อยความร้อนออกจากปลายเข็มเพื่อทำลายเซลล์เนื้องอก คล้ายการ “จี่” ค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดในกลุ่ม (ประมาณหลักหมื่นบาท)

2. พลังงานความเย็น (Cryoablation) ปล่อยแก๊สอาร์กอนทำให้ปลายเข็มเย็นจัดถึง -20 ถึง -40°C เกิดน้ำแข็งภายในก้อน ทำลายเซลล์ด้วยการแช่แข็งและละลาย ข้อดีคือกระทบเนื้อเยื่อรอบข้างน้อย และสามารถเห็นขอบเขตของน้ำแข็งได้ชัดเจนด้วย CT

3. กระแสไฟฟ้า (Electrical Current) ใช้ไฟฟ้าเจาะรูเซลล์ให้ตายลง เป็นวิธีที่ใช้น้อยเนื่องจากค่าอุปกรณ์สูง

การเลือกวิธีรักษา ขึ้นอยู่กับภาพทางรังสีเป็นหลัก รวมถึงตำแหน่งของก้อน อวัยวะข้างเคียง ขนาดก้อน และค่าใช้จ่าย โดยแพทย์จะวางแผนการรักษาอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่ออวัยวะสำคัญ เช่น เส้นเลือดใหญ่ ปอด ลำไส้ หรือถุงน้ำดี


โรคที่สามารถรักษาได้ด้วยเทคนิคปลายเข็ม

การรักษานี้เหมาะกับทั้งก้อนเนื้อร้าย (มะเร็ง) และเนื้อดี

- เนื้อร้าย (มะเร็ง) พบมากที่สุดในมะเร็งตับ (ประมาณ 80% ของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลมหาราช), มะเร็งปอด และมะเร็งไต

-เนื้อดี (ไม่ใช่มะเร็ง) เช่น ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ (คอพอก) ที่มีขนาดใหญ่จนรบกวนการหายใจหรือการกลืน หรือยื่นนูนออกมา ซึ่งสามารถจี้ลดขนาดก้อนได้โดยไม่ต้องผ่า


ข้อดีและข้อจำกัดของการรักษาด้วยปลายเข็ม

- แผลเล็ก ขนาดเท่าไม้เสียบลูกชิ้น

- ส่วนใหญ่ไม่ต้องเย็บแผล

- ฟื้นตัวไว กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ในวันรุ่งขึ้น

- เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวมาก

- ใช้ร่วมกับการรักษาอื่นได้ ข้อจำกัด

- เหมาะกับก้อนขนาดไม่เกิน 3 เซนติเมตร

- เหมาะสำหรับจำนวนก้อนไม่เกิน 3–4 ก้อน

- ไม่เหมาะกับบางตำแหน่ง เช่น มะเร็งลำไส้หรือถุงน้ำดี


ความปลอดภัยและการเตรียมตัวก่อนรักษา

แพทย์จะวางแผนการปักเข็มอย่างละเอียดจากภาพรังสี ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งก้อน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์หากมีโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือใช้ยาต้านเกล็ดเลือด/ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งต้องหยุดยาก่อนตามคำแนะนำ

การดมยา

-ก้อนลึก เช่น ตับ ปอด ไต → ต้องให้ยานอนหลับหรือยาสลบ มีวิสัญญีแพทย์ดูแล

-ก้อนตื้น เช่น ต่อมไทรอยด์ → ใช้ยาชาเฉพาะที่และต้องตื่นระหว่างทำ เพื่อทดสอบการกระทบเส้นประสาทเสียง


หลังทำอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อย ควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวด และดีขึ้นใน 1 วัน ควรงดออกกำลังกายหนัก 3–4 วันเพื่อให้แผลหายสนิท


การติดตามผลและสิทธิ์การรักษา

ผู้ป่วยจะได้รับการติดตามผลด้วยการตรวจเลือด อัลตราซาวด์ CT หรือ MRI อย่างสม่ำเสมอ โดยช่วงแรกจะนัดถี่ (เช่น 1 เดือน) แล้วค่อย ๆ ห่างออก (6 เดือน–1 ปี) เพื่อเฝ้าระวังการกลับเป็นซ้ำ


ค่าใช้จ่าย

- สิทธิ์เบิกตรง: เบิกจ่ายค่าอุปกรณ์เข็มได้บางส่วน

- สิทธิบัตรทองและประกันสังคม: ไม่สามารถเบิกจ่ายค่าอุปกรณ์เข็มรักษาได้


การรักษาด้วยปลายเข็มเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัดใหญ่ได้ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง