รีเซต

วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย 7 วัน เสียหาย 1,000 ล้าน

วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย 7 วัน เสียหาย 1,000 ล้าน
TNN ช่อง16
12 กันยายน 2567 ( 18:11 )
28

น้ำท่วมเชียงราย: ผลกระทบทางเศรษฐกิจและบทเรียนสำคัญ


สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของไทยได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้ประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทภายในระยะเวลา 5-7 วัน โดยคาดว่าหลังจากนั้นสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ความเสียหายครอบคลุมหลายภาคส่วน ทั้งภาคเกษตร สถานที่ราชการ และทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในจังหวัด ซึ่งชะลอตัวลงเนื่องจากภาพน้ำท่วมที่แพร่กระจายออกไป


เมื่อพิจารณาพื้นที่น้ำท่วมทั้งหมดในภาคเหนือ ซึ่งครอบคลุม 7-8 จังหวัด รวมถึงเชียงราย การประเมินความเสียหายเบื้องต้นอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะไม่รุนแรงนัก โดยเฉพาะหากมีการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งอาจช่วยชดเชยและกระตุ้นเศรษฐกิจได้


สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระบุว่าสาเหตุหลักของน้ำท่วมมาจากปริมาณฝนที่ตกหนักกว่า 300-400 มิลลิเมตรในช่วง 2 วัน ทั้งในฝั่งไทยและเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมจากสภาพภูมิประเทศ เช่น แม่น้ำบางช่วงที่แคบ และการรุกล้ำแม่น้ำของสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งกีดขวางการไหลของน้ำ แม้ว่า สทนช. จะได้รายงานข้อมูลปริมาณฝนให้กับจังหวัดและพื้นที่เสี่ยงแล้ว แต่ปริมาณน้ำที่มากเกินคาดทำให้การรับมือเป็นไปอย่างยากลำบาก


เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว สทนช. วางแผนที่จะร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมาในการติดตั้งอุปกรณ์วัดปริมาณน้ำฝนและน้ำท่าในพื้นที่ต้นน้ำ ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเสริมให้เมียนมาสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อช่วยชะลอการไหลของน้ำและลดความเสี่ยงน้ำท่วมในอนาคต


แม้ว่าผลกระทบระยะสั้นจากน้ำท่วมจะรุนแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะสามารถฟื้นตัวได้ภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ การวางแผนรับมือฉุกเฉิน และความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการทรัพยากรน้ำ การดำเนินการเชิงรุกในประเด็นเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงและความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว


ภาพ Freepik 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง