ผู้ถือหุ้น WASH อ่วม ปิดต่ำจอง 2.15 บาท ขาดทุนยับ 28.67%

#WASH #ทันหุ้น – WASH ปิดเทรดวันแรกต่ำจอง 28.67% อยู่ที่ 5.35 บาท ลดลง 2.15 บาท จากราคาไอพีโอที่ 7.50 บาท ฟากผู้บริหารเตรียมนำเงินระดมทุนขยายสาขาร้านสะดวกซักไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในปี 2569-2570

                ความเคลื่อนไหวของ บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดการซื้อขายวันแรกวานนี้ (3 พ.ย.68) อยู่ที่ 6.10 บาท ระหว่างวันราคาต่ำสุด 5.10 บาท สูงสุด 6.70 บาท และปิดตลาดที่ 5.35 บาท ลดลง 2.15 บาท หรือ 28.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 871.46 ล้านบาท  

            สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินทิศทาง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH ว่า บริษัทมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจหลัก 2 ส่วนคือ ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซักของตนเอง และมีการให้สิทธิในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์เดียวกัน ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งแบบ บริการตนเอง (Self-Service) ในทุกสาขา หรือบริการครบวงจร (Full Service) เช่น บริการซักอบพับ หรือบริการรับรีด ในสาขาที่เปิดให้บริการแต่ละประเภท

** พัฒนาแอปพลิเคชัน

                WASH ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “WashXpress” เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการของลูกค้า แอปพลิเคชันนี้มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น การค้นหาสาขาที่ใกล้ที่สุด, การตรวจสอบสถานะความว่างของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า, การติดตามสถานะการซักอบผ้าแบบเรียลไทม์, พร้อมรองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสดและ E-Wallet

                บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการ IPO ไปขยายสาขาเพื่อเพิ่มการเติบโต โดยตั้งเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซักที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของเพิ่ม ไม่น้อยกว่า 160 สาขา ในช่วงปี 2569 - 2570 วัตถุประสงค์หลักในการใช้เงินเพิ่มทุนได้แก่: 1. เพื่อใช้ในการลงทุนเพิ่มจำนวนสาขา WashXpress รองรับการขยายธุรกิจ 2. เพื่อใช้ในการปรับปรุงและยกระดับ (Upgrade) ร้านสะดวกซัก WashXpress ของสาขาที่มีอยู่เดิม และ 3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

** โครงสร้างรายได้

                สำหรับโครงสร้างรายได้หลักของบริษัท มาจากรายได้จากการให้บริการเครื่องซักผ้า อบผ้า และบริการอื่นๆ โดยคิดเป็นร้อยละ 93.93 ของรายได้รวมในปี 2567 ในด้านผลประกอบการ รายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 823.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 83.47 ล้านบาท คาดการณ์ว่าแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิ 6 เดือนแรกของปี 2568 (1H/68) จะเติบโตมากกว่ารายได้และกำไรสุทธิของปี 1H/2567

                อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงหลักของบริษัทที่ควรพิจารณาประกอบด้วย  1. ความเสี่ยงจากภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง 2. ความเสี่ยงจากการไม่สามารถต่ออายุสัญญาเช่าพื้นที่ของสาขาเดิมได้ 3. ความเสี่ยงจากการลงทุนขยายสาขาไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้