TMAN มาตรฐานการผลิตสูง มั่นใจธุรกิจยาดมไม่กระทบ

#TMAN #ทันหุ้น – TMAN มั่นใจธุรกิจยาดมผสมสมุนไพรไม่ได้รับกระทบ หลังจากเกิดประเด็นยาดมผสมสมุนไพร ตราหงส์ไทยถูก อย. เข้าตรวจสอบ เนื่องจากมีพันธมิตรที่มีมาตรฐานการผลิตที่สูง ทั้งนี้มั่นใจรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% พร้อมวางกลยุทธ์การเติบโตทั้งจากการขยายสัดส่วนธุรกิจ OEM การหาพันธมิตรใหม่ในการรับจ้างจัดจำหน่าย รวมถึงออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากมาตรการรัฐ เช่น การควบคุมราคายา คนละครึ่งพลัส โบรกยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 17.90 บาท
นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยา-ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศไทย เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า จากประเด็นเรื่องยาดมผสมสมุนไพร ตราหงส์ไทย ที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบ และยังได้ทำการตรวจสอบโรงงานที่ผลิตยาดมสมุนไพรอีกหลายแห่ง ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากทั้งภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นในสินค้า รวมถึงมีการเรียกคืนสินค้าออกจากท้องตลาด
ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมีการจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด (BERTRAM) ผู้ผลิตแบรนด์ดังอย่าง “เซียงเพียว” และ “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” ซึ่ง TMAN ได้ศึกษามาแล้วว่า BERTRAM มีมาตรฐานการผลิตที่ค่อนข้างสูงมาก โดยมาตรฐานที่ใช้ คือ GMP (Good Manufacturing Practice) ที่ควบคุมและตรวจสอบเชื้อต่าง ๆ ทั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว ดังนั้นสินค้าที่อยู่ในท้องตลาดจึงมีความมั่นใจได้ว่ามีคุณภาพดีตามที่ได้นำเสนอไป
@โตตามเป้า 10%
ในส่วนภาพรวมของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงพยายามเดินหน้าธุรกิจและทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 10% แม้ว่าจะเผชิญกับวิกฤตการณ์หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาเรื่องชายแดน รวมถึงการท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาเต็มที่
ซึ่งบริษัทได้พยายามและบริหารความเสี่ยงอย่างเต็มที่ทั้งการรับจ้างผลิต (OEM), การรับจ้างออกแบบและผลิต (ODM), และการรับจ้างจัดจำหน่ายสินค้า เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางรายได้และช่วยกระจายความเสี่ยง โดยวางแผนกลยุทธ์การเติบโตในอนาคต คือ ขยายสัดส่วนการรับจ้าง OEM เนื่องจากได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นทิศทางที่จะเติบโตต่อเนื่องทั้งปีนี้และปีหน้า
รวมถึงธุรกิจการรับจ้างจัดจำหน่าย ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ลูกค้ารายเดียว บริษัทกำลังมองหาพันธมิตรที่ไว้ใจได้ และอาจจะมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามาในปีหน้า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา อีกทั้งบริษัทเองยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น มีแผนการออกสินค้าใหม่ทุกปีอย่างน้อย 12-15 ตัวต่อปี
@มาตรการรัฐหนุน
อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้รับอานิสงส์จากกระทรวงพาณิชย์ เตรียมการควบคุมต้นทุน ราคายาและเวชภัณฑ์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งบริษัทถือว่าเป็นผู้เล่นในท้องถิ่น หรือ Local player เมื่อเทียบกับบริษัทข้ามชาติ ต้นทุนของบริษัทไทยจะถูกกว่ามาก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัทในประเทศ
ขณะเดียวกันยังได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” ถ้าหากผู้บริโภคมีเงินเหลือจากการใช้จ่ายซื้อปัจจัยพื้นฐาน เช่น อาหาร โดยเงินที่เหลือสามารถนำมาใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ ได้ เช่น อาหารเสริม
@ครึ่งปีหลังโตต่อ
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาดกำไรไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 112 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 651 ล้านบาท เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากการเริ่มรับรู้รายได้จากการเป็นผู้จัดจำหน่ายให้กับบริษัท “Bertram” สำหรับนำ “Peppermint” และ “เซียงเพียว” เข้าไปจำหน่ายในร้านขายยาช่องเดียวกับ “Propolis” และ “Vita-C”ซึ่งคาดจะช่วยหนุนรายได้ 110 ล้านบาท
ขณะที่กำไรไตรมาส 4/2568 อาจขยายตัวต่อ QoQ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นในช่วงท้ายปี เข้ามาช่วยหนุนอัตราผู้ป่วยในประเทศ เป็นบวกกับยอดขายสินค้าทั้งกลุ่มยา และอาหารเสริม ขณะที่ภาพธุรกิจยังเติบโตแกร่ง YoY จากฐานรายได้ที่สูงขึ้นทั้งจากสินค้าใหม่ และธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายให้ “Bertram” ซึ่งโดยรวมยังคงประมาณการกำไรปี 2568 ไว้ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 17.90 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
