รีเซต

PTTEP โบรกฯ ชี้ Valuations กลับมาน่าสน ถึงจุดเข้าซื้อ

PTTEP โบรกฯ ชี้ Valuations กลับมาน่าสน ถึงจุดเข้าซื้อ
ทันหุ้น
23 มีนาคม 2566 ( 11:08 )
74

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP น่าสนใจ ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ" มองตลาดน้ำมันดิบยังแข็งแกร่ง Q1/66TD ราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวในช่วง $70-85/บาร์เรล และเฉลี่ย $80.7 (-5%QoQ) ลดลงหลังจากความกังวลต่อกรณีความไม่มั่นคงของธนาคารทั้งในสหรัฐฯและยุโรป ฝ่ายวิจัยมองว่า Downside ของราคาน้ำมันดิบมีจำกัดและมีแรงหนุนต่อราคาตามความต้องการใช้น้ำมันยังแข็งแกร่ง อ้างอิงจากรายงานเดือน มี.ค. IEA คาดว่าความต้องการน้ำมันดิบจะเร่งตัวตลอดทั้งปี นี้จาก +0.7 ล้านบาร์เรล/วันใน Q1/66F เป็น +2.6 ใน Q4/66F และทั้งปี +2.0 ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มเป็น 102 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ด้วย 

 

ปัจจัยหนุนจากการเดินทางด้วยเครื่องบินและความต้องการใช้จากจีนเพิ่มขึ้น ทางด้านอุปทานจะตึงตัวมากขึ้นจากการเพิ่มการผลิตจะทำได้ช้ากว่าอุปสงค์ที่เร่งตัวขึ้น โดยการผลิตของ Non-OPEC+ ยังต่ำกว่าเป้ าหมาย

 

แนวโน้มกำไรผันผวนต่อราคาน้ำมันดิบลดลง ฝ่ายวิจัยมองว่าแนวโน้มกำไรของ PTTEP ผันผวนต่อราคาน้ำมันดิบลดลงตามสัดส่วนการขายก๊าซที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นโดยล่าสุดเพิ่มเป็น 73% จากอดีตที่ 65% ซึ่งราคาขายก๊าซจะมีเสถียรภาพมากกว่าราคาน้ำมันดิบ นอกจากนั้น PTTEP ยังทำสัญญา Hedging สำหรับการขายน้ำมันดิบและคอนเดนเสทราว 30% ของปริมาณขายทั้งหมด โดย ณ สิ้นปี 65 ทำไว้แล้ว 3.3 ล้านบาร์เรล (29% ของปริมาณขาย 11 ล้านบาร์เรล/ไตรมาส) ด้วยราคาน้ำมันดิบ Brent ณ ปัจจุบันต่ำกว่า ณ สิ้นปี ก็น่าจะทำให้มีกำไรจาก Hedging มาชดเชยรายได้ที่ลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงได้บางส่วน 

 

พัฒนาการของแหล่งผลิตในประเทศจะหนุนปริมาณขายและปริมาณสำรอง เมื่อต้นเดือนนี้ PTTEP ได้ชนะการประมูลในสิทธิสำรวจและผลิตแปลง G1/65 และ G3/65 ขนาด 19,515 ตารางกิโลเมตร ซึ่งแปลงนี้อยู่ใกล้กับโครงการที่ดำเนินการอยู่ทำให้เพิ่มโอกาสการพัฒนาได้รวดเร็วขึ้นและด้วยต้นทุนที่ต่ำอีกทั้งหากประเมินศักยภาพแน่ชัดก็จะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองให้กับ PTTEP ได้

 

ทั้งนี้ ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว ณ สิ้นปี 65 เพิ่มขึ้น +7%YoY จาก 1,350 ล้านบาร์เรล เป็น 1,442 จากการเจาะหลุมเพิ่มเติมและการค้นพบใหม่ อีกหนึ่งโครงการสำคัญ คือ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) ที่ปีที่แล้วได้สร้างและติดตั้งแท่นผลิตรวม 8 แท่น และจะเร่งเพิ่มอัตราการผลิตขึ้นจาก 210 MMSCFD เป็ น 400 ใน มิ.ย. 600 ในสิ้นปีนี้และเพิ่มเป็น 800 ในเม.ย. 67 ล่าสุดในเดือน ม.ค. 66 ผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 237 MMSCFD ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีและจะช่วยหนุนปริมาณขายในปีนี้ให้กับ PTTEP

 

ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากจะหนุนการจ่ายเงินปันผล เมื่อ 21 มี.ค. ทริสเรทติ้งยืนยันเรทติ้ง PTTEP ที่ “AAA” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ทริสมองว่าปริมาณขายที่แข็งแกร่ง +4.6% CAGR จะช่วยหนุน EBITDA ให้สูงต่อเนื่องราว $6b (2.0 แสนลบ.)/ปี แม้ว่าราคาน้ำมันดิบอาจลดลงอัตราส่วน Debt to EBITDA ต่ำมากเพียง 0.5x PTTEP มีเงินสดในมือสูงถึง $3.5b (1.2 แสนลบ.) ขณะที่ไม่มีเงินกู้ยืมที่ครบกำหนดในช่วง 3 ปี ข้างหน้า ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่า PTTEP มีศักยภาพสูงมากในการมองหาโครงการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงรักษาการจ่ายเงินปันผลด้วยอัตราที่สูง

 

ถึงจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาหุ้น PTTEP ลดลง -19%YTD เทียบกับ SET-5% และราคาน้ำมันดิบ -5% ซึ่งมองว่าลดลงมากเกินไป โดยส่วนสำคัญเกิดจากการลดการถือครองของต่างชาติถึง -2%YTD รวมถึงการขายผ่าน NVDR ด้วย Valuations กลับมาน่าสนใจด้วย P/B 1.1x และอัตราเงินปันผล 6.5% ประกอบกับการพลิกกลับเข้าซื้อของต่างชาติในสัปดาห์ล่าสุด ทำให้ฝ่ายวิจัยมองว่าถึงจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจสำหรับ PTTEP ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” ด้วย Upside +24% จากราคาเป้าหมาย 176 บ.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง