SAVรายได้ปี69วิ่งสู่2.6พันล. งานประมูลหนุนโตก้าวใหญ่

#SAV #ทันหุ้น - SAV ชี้เป้ารายได้ปี 2569 ไปแตะ 2.6 พันล้านบาท ฐานงานบริการจราจรการบินแข็งแรง ขณะที่ต้นปี 2569 คาดชัดเจนงานประมูลหนุนการเติบโตอย่างมีนัย ฟากโบรกลุ้นอัพไซด์ยอดเที่ยวบินโค้งท้ายปี 2568 ลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่วนงานประมูลจะหนุนผลงานยาวคาดหวังประกาศลงนามมกราคม ที่จะถึงนี้ ให้เป้าพื้นฐาน 18 บาท

นายรัฐนันท์  วิไลลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทน บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทประเมินเป้าหมายรายได้ปี 2569 จะขยายตัวมากกว่าผลงานปี 2568 ซึ่ง 9 เดือนทำได้แล้ว 1,582.88 ล้านบาท และไตรมาส 4/2568 ก็ยังมีทิศทางที่น่าพอใจ

*เป้าหมายผลงาน

บริษัทประมาณการปี 2569 รายได้ราว 2,600 ล้านบาท การเติบโตระดับก้าวกระโดดนี้ มาจากฐานธุรกิจให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศที่แข็งแรงมั่นคง มองเห็นศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง ผนวกกับจะมีรายได้จากการประมูลงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการบิน (Aviation) มาเสริม 

ทั้งนี้การบินผ่านน่านฟ้า หรือ Overflight นับเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 70% มาจากเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชาโดยไม่ได้ลงจอด พบอัตราเติบโตโดดเด่นมากจากทางประเทศจีน, มาเลเซีย และสิงคโปร์ อีกทั้งบริษัทเล็งเห็นศักยภาพในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น สปป.ลาว  เมียนมา ซึ่งมีลักษณะรายได้คล้ายคลึงกับกัมพูชา คือมีรายได้หลักจากการบินผ่านน่านฟ้า (Overflight) จึงอาจเป็นโอกาสในอนาคต

สำหรับโครงการใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจนได้แก่ โครงการจำหน่ายอุปกรณ์ ซึ่ง SAV พร้อมเข้าเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์วิทยุการบินในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงไทย กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา โดยคาดว่าจะมีการเปิดประมูลอัพเกรดอุปกรณ์ใหม่ให้กับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 1,100 ล้านบาท, โครงการระบบตรวจจับสิ่งแปลกปลอมบนรันเวย์ (FOD - Foreign Object Debris) โดยบริษัทได้จับมือกับพันธมิตรคือ "แดนไทย อีควิปเมนท์" ในสัดส่วน 50:50 เพื่อเข้าประมูลระบบแจ้งเตือนสิ่งของหล่นบนรันเวย์เพื่อความปลอดภัยในการขึ้น-ลงของเครื่องบิน  โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,280 ล้านบาท และหากโครงการ FOD ประสบความสำเร็จที่สนามบินสุวรรณภูมิ บริษัทมีแผนจะขยายผลไปยังสนามบินดอนเมืองและภูเก็ตต่อไป

"งานบริการควบคุมการจราจรทางอากาศตลอดไตรมาส 4/2568 ก็มีแนวโน้มเติมโตดีและต้นปี 2569 ความชัดเจนงานประมูลต่างๆ จะเข้ามาซึ่งส่วนนี้จะสนับสนุนให้รายได้โดยรวมให้มากขึ้่นอีกนับเป็นส่วนเสริมที่สำคัญ" นายรัฐนันท์ กล่าว

 นายรัฐนันท์ ยังเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4/2568 จะดีขึ้นกว่า ไตรมาส 3/2568 ปัจจัยสนับสนุนหลักคือปริมาณเที่ยวบิน Overflight ที่บินผ่านกัมพูชามีการเติบโตขึ้น ซึ่งเกิดจากทั้งความนิยมเดินทางที่สูงขึ้นช่วงปลายปีตามฤดูกาล และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องซึ่งเส้นทางการบินหลัก เช่น ยุโรป มาเวียดนาม, จีนมาภูเก็ต, หรือจีนลงมาเลเซีย/สิงคโปร์  ก็มักต้องผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา อีกทั้งกิจกรรมการบินที่น่าจะคึกคักขึ้นนี้ทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรปี 2568 ที่สูงกว่าปี 2567ค่อนข้างมาก และรายได้จะสูงขึ้นด้วย อีกทั้งแนวโน้มน่าจะดีขึ้นได้อีกในระยะยาว 

*นักวิเคราะห์มองบวก

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มธุรกิจ ไตรมาส 4/2568 และปี 2569 ดังนี้ จำนวนเที่ยวบินไตรมาส 4/2568 นับตั้งแต่ต้นไตรมาสเติบโตสูง โดยประเมินเดือนตุลาคมอยู่ที่ 1.04 หมื่นเที่ยวบินบวก 16% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ พฤศจิกายนจะทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 1.15 หมื่นเที่ยวบินบวก 17% YoY จากการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบิน Overflight ทั้งผลกระทบพายุที่เวียดนาม และจีนแจ้งเตือนเดินทางไปญี่ปุ่น ทำให้มีเที่ยวบินจีนไปสิงคโปร์และมาเลเซียเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งต้องบินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา ส่วน ธันวาคม ปี 2568 จะยังมีทิศทางดีขึ้น ส่งผลให้ไตรมาส 4/2568 จะมีเที่ยวบินไม่ต่ำกว่า 3.35 หมื่นเที่ยวบินบวก 15% YoY, บวก 15% เทียบไตรมาส 3/2568

การขยายธุรกิจใหม่มีความคืบหน้า โดยคาดว่าทั้งโครงการ FOD ของ AOT มูลค่า 1,250 ล้านบาท (SAV ถือหุ้น 50%) และโครงการจัดหาอุปกรณ์ให้กับวิทยุการบินแห่งประเทศไทย มูลค่า 1,100 ล้านบาท จะเปิดประมูลในเดือนธันวาคม ปี2568 และจะมีการเซ็นสัญญาในเดือนมกราคม 2569 พร้อมคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2569 ต่อเนื่องถึงปี 2570

ประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 540 ล้านบาทบวก 16% YoY และปี 2569 เท่ากับ 616 ล้านบาทบวก 14%  โดยกำไรยังมี Upside ได้อีก จากจำนวนเที่ยวบินที่มีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นมาก และปี 2569 ประเมินจำนวนเที่ยวบินจะเติบโต 8-10% YoY และยังมีโอกาส Upside หากชนะการประมูล 2 โครงการข้างต้น จึงแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 18.00 บาท