เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (28 ก.ย.2565)

รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย พันธมิตรของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กร้าวเตือนการใช้อาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ต่อยูเครนและชาติตะวันตก ล่าสุด รัสเซียเปิดเผยผลการแสดงประชามติ ผนวก 4 ภูมิภาคของยูเครนเป็นของตน อ้างประชาชนเสียงข้างมากสนับสนุนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

คำเตือนเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในวันอังคาร (27 กันยายน) ของ ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย เป็นหนึ่งในคำเตือนหลายครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ทั้งจากประธานาธิบดีปูติน และบุคคลใกล้ชิด

ส่วนบรรดานักการทูต กล่าวว่า การข่มขู่ด้วยนิวเคลียร์ เป็นความพยายามของรัสเซียที่จะทำให้ชาติตะวันตกหวาดกลัวเพื่อลดความช่วยเหลือยูเครน ด้วยการบอกเป็นนัยว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์ เพื่อปกป้องดินแดนที่ผนวกเอาจากยูเครน

เป็นครั้งแรกที่เมดเวเดฟ คาดการณ์ว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต จะไม่เข้าสู่วิกฤตขัดแย้งในยูเครนโดยตรง หากรัสเซียโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ โดยเมดเวเดฟ ระบุใน Telegram ว่า เขาเชื่อว่า นาโตจะไม่แทรกแซงโดยตรงในความขัดแย้งครั้งนี้ พวกเขาจะไม่เข้าไปทิ้งชีวิตในหายนะนิวเคลียร์

ด้านมิไคโล โปดอลยัค ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ไม่สนใจถ้อยแถลงดังกล่าว พร้อมให้สัมภาษณ์ Reuters ว่า ยูเครนจะไม่ถูกคุกคามจากคำขู่ใช้นิวเคลียร์ หรือจากการแสดงประชามติผนวกดินแดน

พร้อมระบุว่า ยูเครนจะเดินหน้าแผนการยึดคืนดินแดนทั้งหมดที่ถูกกองทัพรัสเซียควบคุม โดยเชื่อว่า วิกฤตครั้งนี้สามารถยุติได้ หากสามารถปลดปล่อยดินแดนของยูเครนในพรมแดนที่นานาชาติให้การยอมรับในปี 1991

โปดอลยัค กล่าวด้วยว่า ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ของโลก ควรจะเตือนรัสเซียว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์หรือทางยุทธวิธีใด ๆ ในยูเครน จะต้องพบกับการตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรม

ส่วนเจ้าหน้าที่ในเขตยึดครอง 4 แห่งของยูเครน ที่รัสเซียแต่งตั้งไว้ รายงานว่า ประชาชนเสียงข้างมากสนับสนุนการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย หลังจากจัดการแสดงประชามตินาน 5 วัน ซึ่งยูเครนและชาติตะวันตกตำหนิว่าเป็นเรื่องน่าอาย

ประธานวุฒิสภารัสเซีย กล่าวว่า รัฐสภารัสเซียจะพิจารณารวมเอกทั้ง 4 ภูมิภาคเข้ากับรัสเซียในวันที่ 4 ตุลาคมนี้

ด้านยุโรป กำลังสอบสวนเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซ Nord Stream ทั้งสองแห่งของรัสเซีย รั่วไหลในทะเลบอลติก ซึ่งเยอรมนี, เดนมาร์กและสวีเดน กล่าวว่า เกิดจากการโจมตี

ทั้งนี้ ท่อส่งก๊าซ Nord Stream ถือเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งด้านพลังงานระหว่างยุโรปกับรัสเซีย แต่ยังคงห่างไกลความชัดเจนว่า ใครอาจอยู่เบื้องหลังก๊าซรั่วไหลในทะเลบอลติกครั้งนี้

ข้อมูล TNN World

ภาพ: Reuters