BGRIM กำไรตามคาด 344 ล้าน +165% บล.เอเซียพลัสแนะ “ถือ” เป้า 32 บ.
#BGRIM #ทันหุ้น - บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 344.09 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.05 บาท เพิ่มขึ้น 165% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนมีขาดทุนสุทธิ 529.33 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.24 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 1,421.39 ล้านบาทกำไรต่อหุ้น 0.34 บาท เพิ่มขึ้น 303% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนมีขาดทุนสุทธิ 699.20 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.38 บาท
ผลการดำเนินงานเป็นไปตามที่โบรกเกอร์คาดการณ์ โดยบล.เคจีไอ คาดว่าจะกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท แนะนำ “ถือ”ให้ราคาเหมาะสม 29 บาท บล.เอเซียพลัสแนะนำ “ถือ” ให้ราคาเหมาะสม 32 บาท
บริษัทชี้แจงถึงแนวโน้มในปี 2567 ระบุว่า รับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีจากโครงการโรงไฟฟ้า BGPAT283 หลังจากการเปิดดำเนิการเชิงพาณิชย์ใน Q42566 โครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 280 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 180 เมกะวัตต์ กับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปี
เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการตามแผนด้วยกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 58 เมกะวัตต์ ในปี 2566 จากโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสานอู่ตะเภา เฟสแรก, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GIFU ขนาด 20 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่น และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แบบติดตั้งบนบก KOPOS ขนาด 20 เมกะวัตต์ ในประเทศเกาหลีใต้
มุ่งขยายการลงทุนทั้งโครงการใหม่และการเข้าซื้อกิจการ เพื่อขยายพอร์ตการลงทุนของเราในปี 2567 โดยขยายพอร์ตการลงทุนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, กัมพูซา, กรีซ, อิตาลี, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดิอาระเบีย
ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าอุดสาหกรรม (IU) รายใหม่ เชื่อมเข้าระบบรวม 50-60 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในปี 2567
คาดการณ์รายได้จากการบริการและใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) จะเพิ่มขึ้น
คาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยสำหรับ SPP อยู่ที่ 350-380 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2567 เมื่อเทียบกับที่ 400-450 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2566