BlackRock เดินหน้าเต็มตัว เตรียมยกระดับวงการด้วย Tokenization
#BlackRock #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก The Block ได้ระบุว่า BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกำลังสร้างกระแสในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล มีรายงานว่ากำลังพิจารณาที่จะนำกองทุน ETF (Exchange-Traded Funds) ของบริษัทเข้าสู่เครือข่ายบล็อกเชน ตามการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg
การดำเนินการนี้อาจรวมถึงการแปลงกองทุนที่เกี่ยวข้องกับ “สินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (real-world assets)” เช่นหุ้น ให้เป็นโทเคน Olga Kharif นักข่าวอาวุโสสายคริปโตของ Bloomberg ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้ Kharif ตั้งข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะอยู่ภายใต้ "ข้อพิจารณาด้านกฎระเบียบ"
บริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตหลายรายการ รวมถึง ETF ที่ใหญ่ที่สุดที่ติดตาม Bitcoin และ Ethereum คือ iShares Bitcoin Trust และ iShares Ethereum Trust ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้ารวมกัน 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ ทั้งสองกองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในหนึ่งปีหรือน้อยกว่า ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในสามของผลิตภัณฑ์ที่บรรลุเป้าหมายนี้
นอกจากนี้ BlackRock ยังมีกองทุน "ตามธีม" เช่น iShares Blockchain and Tech ETF ซึ่งลงทุนในดัชนีของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตโดยตรง แต่ไม่ได้ลงทุนในโทเคนโดยตรง
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นทั่วทั้ง Wall Street ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Fidelity ได้เปิดตัวกองทุนตลาดเงินแบบบล็อกเชนสำหรับกองทุน Treasury Fund ของตนอย่างเงียบ ๆ ซึ่งปัจจุบันเชื่อมโยงกับ Fidelity Digital Interest Token ในขณะเดียวกัน Nasdaq กำลังขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (U.S. Securities and Exchange Commission) เพื่อทำการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นโทเคนควบคู่ไปกับหุ้นแบบดั้งเดิม
เป็นที่น่าสังเกตว่า BlackRock มีประสบการณ์โดยตรงในการออกผลิตภัณฑ์บนบล็อกเชน บริษัทจัดการสินทรัพย์แห่งนี้มี BlackRock USD Institutional Digital Liquidity Fund (BUIDL) ซึ่งกลายเป็นกองทุนที่เป็นโทเคนแห่งแรกที่มียอดทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม และปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามข้อมูลจาก RWA.xyz
ตลาดหลักทรัพย์ที่แปลงเป็นโทเคน รวมถึงหุ้นและ ETF ยังคงเป็นตลาดที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ แม้ว่าจะมีความสนใจเพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้เล่นรายใหญ่หลายราย รวมถึง Robinhood และ Kraken ได้นำเสนอหุ้นสหรัฐฯ ยอดนิยมเวอร์ชันบนบล็อกเชน เช่น TSLA และ APPL อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลของ RWA มีสินทรัพย์เหล่านี้หมุนเวียนอยู่ไม่ถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock ได้กล่าวหลายครั้งว่าเขาคาดการณ์ว่าสินทรัพย์ทางการเงินทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นโทเคน สินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การบริหารของบริษัทมีมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสนั้น
อย่างไรก็ตาม Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF ของ Bloomberg กล่าวใน X ว่าแม้การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนอาจนำไปสู่การปรับปรุงเล็กน้อยใน “ระบบหลังบ้านของ TradFi” แต่เขายังคงสงสัยว่าแนวโน้มนี้จะเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภคอย่างมาก
“สิ่งที่ถูกกล่าวอ้างโดยทั่วไปคือการโน้มน้าวให้นักลงทุนขาย VOO และอื่น ๆ และซื้อโทเคนในลักษณะเดียวกับที่ ETF แย่งลูกค้าจากกองทุนรวม” เขาเขียน "ผมมองไม่เห็นว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ผมไม่เห็นมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริโภคที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนมาใช้ ผมเคยพูดแบบนี้เกี่ยวกับ Digital Instruments และผมก็พูดถูก"
"ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่จะแปลงสิ่งต่างๆ ให้เป็นโทเคนสำหรับผู้ที่อยู่ในบล็อกเชน เช่นเดียวกับที่ ETF ทำให้สิ่งต่างๆ บนบล็อกเชนง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย แต่ผู้ที่อยู่ในบล็อกเชนเป็นสัดส่วนที่น้อยมากของเงินทุนทั่วโลก นั่นคือเหตุผลที่บางครั้งกระแสความตื่นเต้นดูเหมือนจะมากเกินไปเมื่อเทียบกับผลกระทบ (อย่างน้อยในระยะกลาง)" Balchunas กล่าวเสริมในความคิดเห็นที่ตามมา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้