รีเซต

เปิด 3 เคล็ดลับช่วยฟื้นฟูปอดผู้ป่วยลองโควิด แค่ปรับการนอนก็ช่วยได้!

เปิด 3 เคล็ดลับช่วยฟื้นฟูปอดผู้ป่วยลองโควิด แค่ปรับการนอนก็ช่วยได้!
TNN ช่อง16
21 กุมภาพันธ์ 2565 ( 17:00 )
88

วันนี้ ( 21 ก.พ. 65 )นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผู้ป่วยกลุ่มอาการลองโควิด-19 หรือผู้ที่หายป่วยจากการติดเชื้อแล้ว ควรหมั่นสังเกตอาการและเฝ้าระวังภาวะลองโควิดของตนเองอยู่เสมอ  รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการสร้างสุขอนามัยที่ดี ด้วย 3 เคล็ดลับ ดังนี้

1.นอนหลับพักผ่อนให้เหมาะสม  โดยตื่นนอนให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน รับแสงแดดให้เพียงพอในตอนเช้าอย่างน้อย 30 นาที หลีกเลี่ยงคาเฟอีน  อาหารมื้อดึก งดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อสร้างสุขอนามัย ในการนอนหลับที่ดี 

2.ควรมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ ได้แก่ กล้ามเนื้อกะบังลม และกล้ามเนื้อยึดซี่โครง ด้วยการฝึกหายใจเข้าและออก โดยในแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ   5 วินาที ทำ 10 ครั้งต่อรอบ ประมาณ 3 – 5 รอบ และระหว่างรอบให้พัก 30 – 60 วินาที จะช่วยเพิ่มความสามารถในการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการเหนื่อย หายใจลำบาก ช่วยขับเสมหะ และป้องกันการเกิด ภาวะปอดแฟบ โดยสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกหรือคาร์ดิโอ ประมาณวันละ 30 – 60 นาที 3 – 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น การเดินเร็ว รอบบ้าน ย่ำเท้าอยู่กับที่ การเต้นแอโรบิก    ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหายใจ การไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจและปอด ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย  

 3. ควรมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ บริเวณกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบน สะบัก และ  ลำตัวด้านข้าง เพราะเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่ช่วยขยายกระบังลมและซี่โครง ทำให้หายใจได้ดีขึ้น หากกล้ามเนื้อเหล่านี้มีการตึงตัว ยึดเกร็ง ทรวงอกจะไม่สามารถขยายตัวได้เต็มที่ พื้นที่ในทรวงอกลดน้อยลง ทำให้สมรรถภาพ การทำงานของปอดลดลงได้ ดังนั้น ควรมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยการเหยียดแขน โก่งหลัง ชูแขนเอียงลำตัว และผสานมือที่ศีรษะ กางศอก แอ่นอก ยืดเหยียดในแต่ละท่าจนรู้สึกตึง ค้างไว้ 15 วินาที ให้ปฎิบัติท่าละ 2 รอบ อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ปอดแข็งแรง ทั้งนี้ การฝึกบริหารปอด ออกกำลังกายแบบแอโรบิก  และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ควรทำเป็นประจำเพื่อฟื้นฟูร่างกาย สร้างสุขภาพที่ดี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว



ข้อมูลจาก : กรมอนามัย

ภาพจาก : AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง