‘ไบเดน’ ร่วมพิธีรำลึก 100 ปี สังหารหมู่คนผิวดำ 300 ชีวิตที่เมืองทัลซา

วันนี้ ( 2 มิ.ย. 64 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน บินไปยังเมืองทัลซาเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมรำลึก 100 ปีความรุนแรงทางเชื้อชาติ ซึ่งมีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาเสียชีวิตประมาณ 300 คน 

ความรุนแรงที่เกิดขึ้น 2 วัน ซึ่งจุดชนวนมาจากม็อบผิวขาว ส่วนใหญ่ถูกลบออกจากประวัติศาสตร์สหรัฐฯมานานหลายสิบปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวกลับมาอยู่ในความสนใจระดับชาติอีกครั้งท่ามกลางการประท้วงเพื่อความยุติธรรมทางเชื้อชาติรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว 

ย้อนกลับไปในวันที่ 31 พฤษภาคม 1921 กลุ่มชาวอเมริกันผิวขาวได้บุกทำลายย่านกรีนวูดที่ร่ำรวยและมั่งคั่ง เป็นย่านของคนผิวดำในเมืองทัลซา โดยชุมชนนี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อเล่นว่า “Black Wall Street” เป็นย่านของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาที่ร่ำรวยที่สุดของสหรัฐฯ จนกระทั่งอาคารบ้านเรือนและห้างร้านธุรกิจของพวกเขาถูกเผาวอดจากเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้น

นอกจากชาวอเมริกันผิวดำต้องเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ประมาณ 300 คนแล้ว ยังมีชาวอเมริกันผิวดำอีกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ หรือไร้บ้านและสิ้นเนื้อประดาตัว 

ตลอดระยะเวลาหลายปีหลังเกิดเหตุการณ์นี้ มีบันทึกของทางการจำนวนมากสูญหาย หรือถูกทำลาย และโรงเรียนต่าง ๆ ก็ไม่ได้สอนเกี่ยวกับเหตุการณ์ฆ่าหมู่ชาวอเมริกันผิวดำครั้งนี้ มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆ่าหมู่เพียง 3 คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ อายุระหว่าง 101 ปี และ 107 ปี ซึ่งไบเดนคาดว่าจะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจพวกเขาด้วยระหว่างเยือนเมืองทัลซา 

ไบเดน ซึ่งกล่าวในเมืองทัลซาเมื่อวานนี้ ระบุว่า นานเกินไปแล้วที่ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นที่นี่ถูกบอกเล่ากันอย่างเงียบ ๆ ถูกปกปิดไว้ในความมืดมิด เขากล่าวต่อว่า พี่น้องชาวอเมริกัน นี้ไม่ใช่เหตุจลาจล นี้เป็นการฆ่าหมู่ และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา

ผู้นำสหรัฐฯ เริ่มเดินทางเยือนเมื่อวันอังคาร ด้วยการไปเยี่ยมชมอาคารผู้รอดชีวิต (Hall of Survivors) ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการฆ่าหมู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมกรีนวูดไม่ถึง 2 ปีหลังเหตุการณ์ฆ่าหมู่ในเมืองทัลซา ม็อบผิวขาวก็ก่อเหตุซ้ำอีกด้วยการบุกทำลายเมืองของคนผิวดำ โรสวูด ในรัฐฟลอริดาด้วย