[รีวิวเกม] Dokapon Kingdom: Connect เกมทำลายมิตรภาพในตำนานกลับมาแล้ว
สำหรับบอร์ดเกมบนคอนโซลที่นอกจาก Mario Party แล้วยังมี Dokapon อีกหนึ่งตำนานที่ออกในยุค 90S ภาคแรกออกบน Super Famicom แต่ภาคที่คนไทยนิยมเล่นจะอยู่บน Playstation 1 และขึ้นชื่อเรื่องการทำลายมิตรภาพผู้เล่นไม่แพ้เกมลุงหนวด แม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกจะดูน่ารักเหมือนเกมสำหรับเด็กน้อยก็ตาม และล่าสุดมันกลับมาอีกครั้งในชื่อ Dokapon Kingdom: Connect
โดยเกม Dokapon Kingdom: Connect ออกวางขายบน Nintendo Switch ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเพิ่งจะออกเวอร์ชันภาษาอังกฤษไป ทำให้แฟนชาวไทยได้เล่นแบบอ่านออกรู้เนื้อเรื่อง ถือว่าไม่บ่อยนักที่ซีรีส์ Dokapon จะถูกสร้างและมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ และคราวนี้เป็นการยำรวมเอาความคลาสสิกของภาคเก่า และยังเพิ่มสิ่งใหม่เข้ามาหลายส่วนด้วย
ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้จะแบ่งออกเป็น Chapters ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทเป็นผู้กล้าปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานของปีศาจ ที่เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้มีความละเอียดหรือลงลึกอะไรมากนักตามรูปแบบการเล่นที่เน้นเกมเพลย์มากกว่า เพราะว่ามันจะเล่าเกี่ยวกับการปกป้องเมืองและการออกล่าหาสมบัติเพื่อให้เมืองกลับมายิ่งใหญ่และร่ำรวยอีกครั้ง ที่ผู้เล่นจะเลือกได้ว่าจะเป็นอาชีพอะไรและเลือกเพศได้ด้วย
กราฟิกย้อนยุคไปไกล
สิ่งแรกที่อาจจะสร้างความผิดหวังคือกราฟิก จริงอยู่ที่มันออกบนคอนโซลลูกผสมอย่าง Nintendo Switch ที่ไม่ได้มีสเปกแรงอะไรแต่ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้สักหน่อย เพราะมันเหมือนเกมสมัย PS2 ไม่รู้ว่าทีมงานตั้งใจทำกราฟิกให้ย้อนยุคหรือว่าไม่มีทุนจะทำให้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามสำหรับแนวทางการเล่นที่เน้นเกมเพลย์มากกว่าทำให้อาจจะไม่ใช่ข้อเสีย
ส่วนเพลงและเสียงประกอบก็มาแนวทางน่ารักเพื่อให้เข้ากับกราฟิกที่เหมือนการ์ตูนสำหรับเด็ก แน่นอนว่ามันดูเชยเหมือนกราฟิกเพราะมันเหมือนเกมที่วางขายช่วงต้นยุค 2000S แถมยังไม่มีเพลงธีมอะไรให้ติดหูน่าฟังนัก แต่ก็ไม่ได้ดูแย่มันช่วยเสริมให้การเล่นดูดีขึ้นและมีการลงทุนใส่เสียงพากย์มาตลอดการเล่นส่วนนี้ทำออกมาได้ดีเหมือนเดิม
เกมเพลย์บอร์ดเกมผสม RPG
รูปแบบการเล่นเบื้องต้นก็เหมือนกับบอร์ดเกมทั่วไป ที่เมื่อเลือกสร้างตัวละครและอาชีพเรียบร้อยแล้วในโหมดหลักจะบังคับตัวละครเดินบนฉากแผนที่ และใช้หลักการแบบเดียวกับการทอยลูกเต๋าเพื่อเดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้เป็นเส้นทาง และตามทางจะมีการพบเจอศัตรูรวมทั้งมีร้านค้า, บ้านเมืองและปราสาทไว้ทำเนื้อเรื่องด้วย และมีการต่อสู้เพื่อยึดครองเมือง ซึ่งเมื่อได้มาครองแล้วก็จะสามารถเก็บค่าผ่านทางได้
ส่วนระบบเดิมที่โดดเด่นยังคงอยู่คือระบบ RPG แบบเทิร์นเบสที่ใส่คำสั่งแล้วโจมตี แต่จะโดดเด่นกว่าเพราะมีการใช้ระบบสุ่มเดาใจกัน ก่อนเล่นจะต้องเลือกว่าใครจะเริ่มโจมตีก่อนและอีกฝ่ายต้องป้องกัน ความสนุกจะอยู่ตรงที่ผู้เล่นจะต้องเดาว่าคู่ต่อสู้จะใช้ท่าอะไร เพราะหากเราเดาได้ถูกและใช้ท่าได้ถูกต้องมันจะโจมตีได้รุนแรงมาก แต่ตรงกันข้ามหากเราเดาทางผิดก็จะโจมตีไม่เข้าหรือหลบหลีกได้
โหมดเดิมก็มีและมาพร้อมโหมดใหม่ด้วย
ซึ่งเมื่อผู้เล่นหยุดอยู่จุดเดียวกันจะเป็นการต่อสู้กันเองซึ่งเป็นจุดเด่นของซีรีส์มายาวนานมาก เพราะมันจะเป็นตัวทำลายมิตรภาพได้ ยิ่งการนั่งเล่นตัวติดกันแบบเกมในยุคก่อนด้วยแล้วยิ่งทำให้เกิดการกระทบกระทั่งนอกจอได้ เพราะนอกจากจะสนุกตอนเดาทางกันแล้ว เมื่อเกิดการแพ้ชนะกันแล้วยังสามารถยึดไอเทม, เงิน หรือยึดเมืองได้ รวมทั้งมีการหักหลังกันทำให้อาจจะเกิดการผิดใจกันได้ แต่มันก็กลายเป็นจุดเด่นจนเป็นตำนานที่ในภาคนี้ก็ยังคงมี และข่าวดีคือมีการใส่ระบบออนไลน์มาให้เล่นด้วยเพื่อไม่อยากเล่นแบบเห็นหน้ากัน
และนอกจากการต่อสู้ที่สนุกเพราะต้องเดาใจกันแล้ว ภารกิจหลักผู้เล่นต้องเก็บรวบรวมสมบัติ, เงินและไอเทมให้มากที่สุด ซึ่งจะได้มาระหว่างการเล่นเพราะมีกิจกรรมมากมายรอให้เราสัมผัสนอกจากการต่อสู้ ยังมีทั้งการเล่นการพนันในบ่อน (ในเกม) มีการหลอกล่อเอามาจากเพื่อนร่วมทีม และการออกปล้นคนในเมือง ฟังดูแปลก ๆ สำหรับคนที่ไม่เคยเล่น แต่มันถือว่าเป็นสีสันของซีรีส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรก
ข้อดีอีกส่วนที่ทำให้ภาคนี้น่าเล่นคือความยิ่งใหญ่ของฉากที่ซับซ้อนและยาวกว่าเดิม รวมทั้งมีอะไรให้ทำมากกว่าเดิมด้วย ซึ่งมีความหลากหลายทางภูมิประเทศและจะมีศัตรูที่แตกต่างกันด้วยเรียกว่าผู้สร้างลงทุนมากกว่าเดิม และยังมาพร้อมกับทางแยกที่เป็นด่านลับรอให้เราค้นหาอีกเพียบ เรียกว่าหากคุณชอบความหลากหลายภาคนี้ถือว่าจัดเต็มพอตัว
ส่วนโหมดใหม่ในภาคนี้ก็มีการใส่เข้ามามากถึง 3 โหมด ที่มีทั้ง Town Race ที่แข่งกับเพื่อนเพื่อไปปลดปล่อยเมืองใครใช้เวลาน้อยที่สุดชนะไป ต่อด้วยโหมด Kill Race ที่ในโหมดนี้ต้องต่อสู้กำจัดศัตรูให้มากที่สุดก็จะชนะไป และปิดท้ายกับ Shopping Race ที่ต้องแข่งกันหาไอเทมพิเศษที่อยู่ในร้านค้าและเมื่อได้มาแล้วต้องเดินกลับมาจุดเริ่มต้นก็จะเป็นผู้ชนะ ถือว่าเป็นของใหม่ที่เสริมให้เกมเล่นได้ยาวนานกว่าเดิม
การกลับมาของ Dokapon Kingdom: Connect ยังคงมาพร้อมกับการเป็นเกมกระดานผสม RPG ที่มาพร้อมกับการเป็นเกมทำลายมิตรภาพเหมือนเดิม เสียดายเล็กน้อยที่ผู้สร้างไม่ลงทุนทำกราฟิกให้ดูดีกว่านี้ ทำให้งานด้านภาพดูย้อนยุคไปหน่อย แต่มองที่เกมเพลย์มันยังคงสนุกน่าเล่นเหมือนเดิมใครเกิดทันตำนานสมัย PS1 ไม่ควรพลาดที่จะหามาเล่นกัน