รีเซต

หญิงหลงป่า 2 วัน 1 คืน ทิ้งเห็ดโคนมูลค่าครึ่งหมื่น เพื่อเอาชีวิตรอด

หญิงหลงป่า 2 วัน 1 คืน ทิ้งเห็ดโคนมูลค่าครึ่งหมื่น เพื่อเอาชีวิตรอด
มติชน
18 มิถุนายน 2563 ( 22:04 )
364
หญิงหลงป่า 2 วัน 1 คืน ทิ้งเห็ดโคนมูลค่าครึ่งหมื่น เพื่อเอาชีวิตรอด

 

หลงป่า – จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน สนธิกำลังป่าไม้ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกค้นหาชาวบ้านพลัดหลงป่าขึ้นไปหาเห็ดโคนบนยอดเขาเมื่อเช้าวานนี้ ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ตรวจสอบพิกัดสัญญาณพบอยู่บนยอดเขาสูง สามารถนำตัวกลับลงมาได้ เผยทิ้งเห็ดโคน 10 กิโลมูลค่าเกือบ 5,000 บาท เพื่อเอาชีวิตรอด

 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพะเยาว์ วงษ์เณร หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ทจ. 1 ห้วยต้นห้าง ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 หนองปากทาง ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้นำกำลังร่วมกับชาวบ้านออกค้นหานางกันตพิชญ์ สุขประพันธ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 3 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ได้เข้าไปหาเห็ดโคนกับนายถนอมศักดิ์ ปานสุวรรณ สามี แต่เกิดพลัดหลงป่าหายตัวไปเมื่อช่วงเช้าวานนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจันได้ ประสานขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง) นายสมชาย จรูญเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 หนองพันจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำชาวบ้านมาสมทบจัดแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด พร้อมตรวจสอบดูภาพถ่ายแผนที่พื้นที่ป่าที่คาดว่าชาวบ้านคนดังกล่าวจะขึ้นไปหาเห็ดโคนหลายจุด เป็นสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีเขตติดต่อกับเทือกเขาสูงรวม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ปากท่อ และ อ.บ้านคา ซึ่งติดอยู่กับเขตเทือกเขาตะนาวศรี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง) ได้ประสานเจ้าหน้าที่บริษัทมือถือ ขอให้ประสานแจ้งส่งพิกัดของสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อตรวจสอบสัญญาณมือถือของผู้พลัดหลงคนดังกล่าว พบว่านางกันตพิชญ์ อยู่บริเวณยอเขาสูงชัน สามารถติดต่อสื่อสารได้เพียงบางจุดเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงให้หยุดอยู่กับที่เพื่อประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่เดินเท้าขึ้นไปยังจุดที่ตรวจสอบพบสัญญาณ ใช้เวลาออกค้นหาตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งถึงช่วงบ่ายของวันนี้ รวมระยะเวลา 2 วัน กับ 1 คืน

 

 

นายพะเยาว์ กล่าวว่า ชาวบ้านได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่เข้าไปหาเห็ดโคนในป่า ซึ่งช่วงนี้น้ำไม่ค่อยมี ภูเขาสูงมาก โดยเดินทางไปหาเห็ดโคนกัน 2 คนผัวเมีย สามียังไม่ได้เข้าไปในป่า แต่ได้รอซื้อเห็ดอยู่ด้านนอก ให้เมียเข้าไปหาคนเดียว พอเจอเห็ดเยอะก็เลยเดินเลยพลัดหลงป่าหาไม่เจอ วันนี้ได้จัดกำลังตามหาแบ่งออกเป็น 3 ชุด มีทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อำเภอได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยด้วย อีกทั้ง พื้นที่แถวนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ มีแค่บางช่วงที่จะติดต่อกันได้ อยู่ระหว่างรอพิกัดจากบริษัทมือถือค่ายหนึ่งส่งพิกัดสัญญาณโทรศัพท์มาให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะนำมาประกอบกับแผนที่ออกค้นหาได้พบตรงจุด โดยสภาพพื้นที่แถบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ มีเห็ดโคนขึ้นเยอะมาก บางจุดอยู่บนยอดเขา เจ้าหน้าที่สามารถโทรศัพท์ติดต่อกับชาวบ้านคนดังกล่าวได้อยู่บางช่วง และได้เห็ดโคนช่วงนั้นประมาณ 3 กิโลกรัมแล้ว

 

“คาดว่าพื้นที่ที่จะพบตัวน่าจะเรียกว่าด่านช้าง ป่าเต็งรัง สภาพเป็นท้องกระทะ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหาแต่ยังไม่พบตัว ซึ่งเส้นทางแถวนี้ที่หน่วยพิทักษ์ป่าในช่วงหน้าฝนตกจะเข้ามาไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า และจะใช้เพียงเครื่องปั่นไฟในการปฏิบัติหน้าที่” นายพะเยาว์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันนี้ นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการให้นายมนตรี โภคานิตย์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอบ้านคา นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปสมทบเร่งค้นหาท่ามกลางสภาพอากาศที่มืดครึ้ม กระทั่งเวลาประมาณ 14.20 น.เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังออกค้นหาเดินเท้าขึ้นไปที่บริเวณยอดเขา และได้รับแจ้งจากนายวินัย หลวงจู อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านได้ร่วมออกค้นหากับลูกชายผู้หลงป่าเป็นผู้พบตัวนางกันตพิชญ์อยู่บริเวณยอดเขาป่าพุบอน บริเวณหมู่ 14 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน มีผ้าสีม่วงคลุมหน้า นุ่งกางเกงขายาว ร่างกายยังแข็งแรง มีสติดี เดินได้สะดวก สามารถพูดโต้ตอบได้

 

 

นางกันตพิชญ์ กล่าวว่า เดินหาเห็ดไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าหลงป่าได้ยังไง ส่วนสามีที่ออกตามหาตนเอง ได้หลงป่าไปอีกกับเพื่อนๆ หลายคน ส่วนตนเพิ่งเคยหลงป่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก อาศัยนอนบนต้นไม้ ไม่ได้กินอะไรเลย นอกจากน้ำอย่างเดียว รู้สึกโล่ง ดีใจออกจากป่าได้แล้ว เก็บเห็ดโคนได้ประมาณ 10 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณเกือบ 5,000 บาท แต่ทิ้งหมดแล้ว เพราะเหนื่อยมาก เอาชีวิตรอดไว้ก่อน ระยะทางที่หลงป่าประมาณ 10 กว่าลูกเขา หรือกว่า 20 กิโลเมตร

 

ด้านนายวินัย หลวงจู อายุ 57 ปี ชาวบ้านคนแรกที่พบนางกันตพิชญ์ กล่าวว่า ไปเจอนางกันตพิชญ์ กำลังนั่งพักอยู่บนเขาคนเดียว ตนใช้สัญญาณโทรศัพท์ช่วยค้นหา พร้อมกับเสียงกู่เรียกตามหาไปเรื่อย จนได้ยินเสียงกู่รับตอบกลับมา จึงได้ให้หยุดอยู่กับที่ไม่ให้เดินต่อ เพราะสัญญาณจะขาดหาย ขาดการติดต่อไม่ได้ ตามหายาก ตนได้เดินลัดเลาะขึ้นเขา ลงเขา ไปไกลมากจนพบตัวอยู่บนยอดเขา อย่างไรก็ตาม ผืนป่าภูเขาดังกล่าวกินพื้นที่ 4 อ.ประกอบ อ.เมือง อ.ปากท่อ อ.จอมบึง และ อ.บ้านคา หลังพบตัวแล้วเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางกันตพิชญ์ขึ้นรถ เดินทางไปตรวจสุขภาพร่างกายที่โรงพยาบาลบ้านคา เพื่อตรวจหาโรค เช่น โรคไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย และโรคที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดูแลรักษา ก่อนกลับสู่ครอบครัวต่อไป

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง