รีเซต

ราชบุรี ส่งเสริมเกษตรกรบางแพ ปลูกเลม่อน พันธุ์ลูกดก-กลิ่นหอม-น้ำมาก มุ่งตลาดโมเดิร์นเทรด

ราชบุรี ส่งเสริมเกษตรกรบางแพ ปลูกเลม่อน พันธุ์ลูกดก-กลิ่นหอม-น้ำมาก มุ่งตลาดโมเดิร์นเทรด
ข่าวสด
13 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:22 )
234
ราชบุรี ส่งเสริมเกษตรกรบางแพ ปลูกเลม่อน พันธุ์ลูกดก-กลิ่นหอม-น้ำมาก มุ่งตลาดโมเดิร์นเทรด

 

ราชบุรี วิสาหกิจชุมชนฯ ส่งเสริมเกษตรกรบางแพ ปลูกเลม่อน สายพันธุ์ลิสบอน สายพันธุ์ยูเรก้า ให้ผลผลิตดี ก่อนมุ่งตลาดโมเดิร์นเทรด รองรับความต้องการผู้บริโภค

 

วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก อำเภอบางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งทางกลุ่มกำลังส่งเสริมให้สมาชิกหันมาปลูกและผลิตเลม่อน ส่งจำหน่ายให้กับตลาดร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ต่อยอดสินค้าเกษตรคุณภาพสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด

 

 

นายราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก เผยว่า ปัจจุบันการปลูกเลม่อน พืชตระกูลเดียวกับมะนาว ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยมากนัก ขณะที่ความต้องการบริโภคของตลาดมีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเลม่อนสามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน หากนำมาปลูก พื้นที่ อ.บางแพ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะนาวคุณภาพดีของประเทศ ยิ่งทำให้ได้ผลผลิตเลม่อนตามความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

 

 

ทางกลุ่ม จึงได้มีการส่งเสริมให้สมาชิกนำเลม่อน สายพันธุ์ลิสบอน ซึ่งให้ผลดก ลักษณะผลเป็นทรงกลม และสายพันธุ์ยูเรก้า ที่สามารถเจริญเติบโตได้เร็ว ผลทรงยาวรี และผิวมีกลิ่นหอม มาปลูกแบบผสมผสาน ร่วมกับกล้วยน้ำว้า และพริก ในร่องสวน โดยนำเทคนิค และมาตรฐานการผลิตผลไม้ส่งออกมาปรับใช้ จนได้ออกมาเป็นเลม่อนที่มีกลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยว ปริมาณน้ำมาก และที่สำคัญคือ สามารถรับประทานผิวเลม่อนได้อย่างปลอดภัย

 

 

สำหรับวิธีการปลูก เริ่มจากนำกิ่งพันธุ์ลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ทิ้งระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 3 เมตร สำหรับการดูแลคล้ายกับการปลูกมะนาว หากแต่เลมอนมีความทนทานต่อโรค และแมลงศัตรูพืชมากกว่า โดยในช่วง 3 เดือน จะเน้นการดูแลเป็นพิเศษ ด้วยการหมั่นรดน้ำ ใส่ปุ๋ย และพรวนดินเป็นประจำ

 

 

กระทั่งเลม่อนมีอายุได้ประมาณ 8 เดือน จึงเริ่มติดดอก และทยอยออกผล ระหว่างนี้ ตนจะให้ปุ๋ย และรดน้ำพร้อมกับพืชอื่นในแปลง ทำให้ช่วยลดต้นทุนถึงร้อยละ 50 โดยเลม่อนจะให้ผลผลิตมากกว่ามะนาวถึง 10 เท่า โดยราคาจำหน่ายเลมอนน้ำหนัก 500 กรัม อยู่ที่ 75 บาท

ส่วนวิธีการขยายต้นพันธุ์ ทางกลุ่มจะใช้วิธีการตอนกิ่ง โดยจะเลือกกิ่งที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีโรค ใช้เวลานานประมาณ 3 เดือน ก็จะได้กิ่งพันธุ์ที่มีรากงอกเต็มถุง จากนั้นจึงตัดออกมาใส่กระถางอนุบาลอีกประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ต้นมีความสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมที่จะส่งให้เพื่อนสมาชิก หรือจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจนำไปปลูกต่อ

ทั้งนี้ สนใจศึกษาเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถาม กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตมะม่วงส่งออกอำเภอบางแพ จ.ราชบุรี โทร. 086 041 9571

ข่าวที่เกี่ยวข้อง