รีเซต

ส.ค้าส่ง-ปลีกไทย สร้างโมเดล"คุ้มจริง"ดึงผู้ผลิตป้อนสินค้าทุนต่ำ เพิ่มขีดความสามารถร้านย่อย

ส.ค้าส่ง-ปลีกไทย สร้างโมเดล"คุ้มจริง"ดึงผู้ผลิตป้อนสินค้าทุนต่ำ เพิ่มขีดความสามารถร้านย่อย
มติชน
27 เมษายน 2565 ( 18:21 )
78
ส.ค้าส่ง-ปลีกไทย สร้างโมเดล"คุ้มจริง"ดึงผู้ผลิตป้อนสินค้าทุนต่ำ เพิ่มขีดความสามารถร้านย่อย

ข่าววันนี้ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน สมาคมฯได้จัดประชุมสมาชิกและบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อหารือถึงแผนความร่วมมือในการยกระดับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของคนไทย รวมถึงร้านค้ารายย่อย(โชวห่วย) ให้สามารถแข่งขันได้กับค้าปลีกข้ามชาติและค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีการแตกย่อยเจาะเข้าชุมชนมากขึ้น ซึ่งในแผนงานของสมาคมฯได้มีการนำเสนอแนวคิดการทำโครงการ’ถูกใจร้านค้า คุ้มจริง’ โดยร้านค้าส่ง(ยี่ปั๊วซ่าปั๊ว)ที่มีศักยภาพ จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงร้านค้าย่อย เริ่มตั้งแต่การแนะนำตกแต่งร้านค้า คัดเลือกสินค้า ระบบบริหารร้านค้าให้มีต้นทุนต่ำลง รวมถึงจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาที่ถูกกว่าปกติ หรือเฉลี่ยถูกลง 10% เพื่อให้โชวห่วยสามารถแข่งขันได้มากขึ้นและมีรายได้ที่ยั่งยืน เบื้องต้นได้มีสมาชิก 2 รายนำร่องทำโมเดลต้นแบบของโครงการแล้ว หรือเป็นร้านหลักในการดูแลร้านค้ารายย่อย ได้แก่ ร้านคุ้มจริง จ.ยโสธร และ ร้านนี้มีดี จ.กรุงเทพฯ(บางบอน 3) สมาคมฯต้้งเป้าเพิ่มร้านค้าหลัก 1,000 ราย แต่ละรายจะดูแลร้านค้าย่อยกว่า 50 ร้านค้าในปีแรกและขยายเป็น 1,000 ร้านค้าในปีถัดไป เท่ากับจะมีร้านค้าย่อยในโครงการนี้ประมาณ 1 แสนราย

 

” จากสถานการณ์โควิดทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคพึ่งพาร้านค้าใกล้บ้านมากขึ้น ประกอบกับคนตกงานหรือต้องการหารายได้เพิ่ม หันมาเปิดร้านค้าขายของเล็กๆน้อยๆหรือร้านของชำในสมัยก่อนเกิดขึ้นอีกครึ้ง จึงทำให้ปัจจุบันมีร้านโชวห่วยเพิ่มเป็น 4-5 แสนราย ฟื้นขึ้นอีกครั้งหลังจากปิดตัวมาตลอด5-6 ปีจนเหลือไม่ถึง 3 แสนราย สมาคมจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะฟื้นโชวห่วยไปพร้อมกับปรับยุคให้ทันสมัยขึ้น เช่น ติดแอร์ บริการดิลิเวอรี่ เพิ่มสินค้ายอดนิยมแต่ขายในราคาเหมาะสม โดยกำลังรวมมือกับผู้ผลิตสินค้าทำไฟติ้งแบรนด์และสินค้าไซซ์เฉพาะในราคาประหยัด โดยมุ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน 10-15% เทียบใช้จ่ายกับค้าปลีกสมัยใหม่ เราขายได้ลูกค้าก็ได้ของใช้ดีราคาถูกด้วย ตอนนี้มี 24 บริษัทผู้ผลิต แสดงความจำนงค์ร่วมมือกับสมาคม และสมาคม ได้เข้าหารือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนต่อไป “นายสมชาย กล่าว


นายสมชาย กล่าวต่อว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์ กำลังซื้อลดลงทันทีกว่า 10% จากนี้ต้องติดตามผลกระทบ 2 เรื่องในเดือนพฤษภาคม คือ สิ้นสุดตรึงดีเซล 30 บาทต่อลิตรและคนละครึ่งเฟส4จบลง ว่า จะส่งผลต่อราคาสินค้าอีกเท่าไหร่ รวมถึงการเคลื่อนไหวจากภาคส่วนต่างๆต้องการให้รัฐออกมาดูแลปัญหาของแพง อาจมีผลต่อกำลังซื้อชะลอต่อไปอีกระยะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง