รีเซต

ราชบุรีเตรียมอพยพชาวบ้าน หากเพลิงไหม้โรงงานแวกซ์กาเบ็จยังไม่ดับ

ราชบุรีเตรียมอพยพชาวบ้าน หากเพลิงไหม้โรงงานแวกซ์กาเบ็จยังไม่ดับ
มติชน
16 มิถุนายน 2565 ( 23:35 )
110
ราชบุรีเตรียมอพยพชาวบ้าน หากเพลิงไหม้โรงงานแวกซ์กาเบ็จยังไม่ดับ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 มิถุนายน 65 หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานแวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล ซึ่งเป็นโรงงานรับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ตั้งอยู่หมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นานกว่า 17 ชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถดับไฟได้ นอกจากนี้ควันไฟยังลอยคละคุ้งไปทั่วบริเวณส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรัศมีโรงงานประมาณ 3 กิโลเมตร เริ่มได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นจากควันพิษ มีอาการ ปวดหัว แสบจมูก และคลื่นไส้

จากการสอบถามนางประเทือง สังวาลเพชร ชาวบ้านในหมู่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง ซึ่งอยุ่ใกล้เคียงกับโรงงาน ก็บอกว่า ช่วงเช้ามืดมีควันลอยมา จึงได้ออกมาดูก็พบว่าโรงงานแวกซ์กาเบ็จ ไฟไหม้ และมีเสียงระเบิดตามมาเป็นระลอก ซึ่งควันที่ลอยมานั้นพักหนึ่งเพราะลมเปลี่ยนทิศ แต่ก็เหม็นมาก ทำให้เวียนหัวและคลื่นไส้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเป็นแบบนี้มาแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าจะสารพิษอะไรปนเปื้อนมาบ้าง ขนาดในน้ำบาดาลที่เคยตรวจมาแล้วมีสารพิษตั้งหลายตัว แต่ไม่เคยมีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ แม้ว่าผู้ใหญ่บ้านจะประกาศให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย แต่เด็กเล็กคงจะสวมไม่ได้ เป็นห่วงหลานที่อายุเพียง 8 เดือน ซึ่งหากว่าคืนนี้ไฟยังไม่ดับ และควันลอยเข้ามาในหมู่บ้านก็คงจะต้องย้ายลูกหลานไปอยู่ที่อื่น เพราะเด็กคงจะทนสูดควันพิษไม่ได้

 

ต่อมานายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เข้าไปตรวจดูสถานการณ์ไฟไหม้ภายในโรงงานพร้อมวางแผนการดับไฟให้เร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนโดยรอบให้น้อยที่สุด โดยเตรียมประสานขอเฮลิคอปเตอร์ จาก ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาช่วยดับไฟ

 

ซึ่งนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นั้นยังบอกอีกว่า ได้มาดูเรื่องของความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน เบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบกลุ่มควันที่ออกไปภายนอก ตรวจสอบน้ำว่ามีไหลออกไปนอกพื้นที่หรือไม่ ซึ่งจะต้องดูหมดทั้งเรื่องของอากาศ เรื่องของน้ำ และเรื่องของมลภาวะ ซึ่งตอนนี้เรามีชุดกู้ภัยสารเคมีที่กำลังเข้ามา แต่ที่สำคัญคือเน้นในเรื่องของความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องควบคุมไฟให้ได้เสร็จแล้วถึงจะเข้าไปตรวจสอบในเรื่องของการควบคุมสารพิษต่างๆ ซึ่งตอนนี้ได้พยายามเต็มที่ว่าจะดับไฟให้ได้เร็ว โดยประสานไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการขอ เฮลิคอปเตอร์มาช่วยดับไฟ เพราะจะต้องใช้น้ำในการควบคุมความร้อนเพื่อไม่ให้เกิดการระเบิด

 

 

ส่วนการดับไฟนั้นตอนนี้ได้ให้ทางผู้ว่าฯ เป็นผู้ควบคุมสั่งการ และเน้นเรื่องความปลอดภัยเป้นหลัก ส่วนชุมชนไหนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือได้กลิ่นก็ขอให้ออกห่าง โดยประสานไปกับทางผุ้นำชุมชนแล้วในรัศมี 4 กิโลเมตร ส่วนสารที่เราพบในตอนนี้คือสาร วีโอซี หรือสารอินทรีย์ระเหยง่าย นอกจากนี้ก็จะต้องดูว่ามีสารที่เป็นอันตรายตัวอื่นหรือไม่ เช่นสารซัลเฟอร์ไดออกไซค์ หรือสารโลหะหนัก ที่จะกระจายออกไปในการใช้น้ำดับไฟหรือฟุ้งกระจาย ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ไป ก็จะต้องเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของพื้นที่ รวมทั้งน้ำดับไฟที่ไหลลงสู่ลำห้วย ก็จะต้องตรวจสอบทั้งหมด รวมทั้งน้ำใต้ดินด้วย ซึ่งภายหลังจากที่ควบคุมสถานการณ์ได้เราก็จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดจากเจ้าของพื้นที่ด้วย

 

ส่วนบรรยากาศในช่วงเย็นนั้นยังคงมีกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่ลอยคละคลุ้งไปทั่ว โดยมีทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจากหลายพื้นที่มารวมตัวในการที่จะเข้าไปทำการดับไฟ โดยคาดว่าภายในคืนนี้จะต้องทำการดับไฟให้ได้ และทราบว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด จำนวน 3 ราย นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุ 2 รูป จากวัดช่องลม จ.สมุทรสงคราม มาตั้งโรงครัวประกอบอาหารให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้รับประทาน โดยเป็นเมนูง่ายๆ คือข้าวไข่เจียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง