ส่อง TCAP โบรกฯ มองเป็นหุ้นปันผลสูง คาดปีนี้จ่าย 3 บาท แต่กำไรไม่โดดเด่น
ทันหุ้น-บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP หลังจากเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ โดย TCAP มีสภาพคล่องส่วนเกินที่สูง ทำให้ผู้บริหารยังคงการจ่ายเงินปันผลที่สูงต่อไปในอนาคต ฝ่ายวิจัยคาด TCAP จะจ่ายเงินปันผลในปีนี้ที่ 3 บาทต่อหุ้น เทียบเท่าจำนวนที่จ่ายในปี 2563 โดยคาดว่าในปี 2564-2566 จะมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจอยู่ที่ 8.8% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในงวดครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.2 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัย คาดว่ากำไรในปี 2564 ของ TCAP มีแนวโน้มลดลง 34% จากปีก่อน เนื่องจากการล็อคดาวน์ในประเทศ ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มจะกลับมาเติบโตเป็นบวกที่ 9-10% ในปี 2565-2566
ขณะที่ผู้บริหาร TCAP ยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งด้วยสภาพคล่องส่วนเกินที่ 6-7 พันล้านบาทในมือ และจะยังคงจ่ายเงินปันผลที่สูงต่อไปในปีนี้ หลังจากเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นเล็กน้อยในธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ TTB เป็น 22.2% จากเดิม 20.1% และถือหุ้นเพิ่มในบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ THANI เป็น 59.79% จากเดิม 58.85% และถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% ในบริษัท เอ็มบีเค ไลฟ์ จากเดิมถือ 51%
นอกจากนี้ได้จัดตั้งบริษัท ธนชาตพลัส ขึ้น โดย TCAP ถือหุ้น 100% โดยธนชาตพลัส จะเน้นการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี ขนาดกลาง ซึ่งผู้บริหารมีแผนที่จะปล่อยสินเชื่อใหม่ผ่าน ะนชาตพลัสอยู่ที่ปีละ 2-3 พันล้านบาท โดยคาดว่าฐานสินเชื่อของธนชาตพลัส จะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 พันล้านบาทใน ธ.ค. 2564 เมื่อเทียบกับประมาณ 1 พันล้านบาทในเดือน มิ.ย.2564
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยูโอบี เคย์เฮียนฯ ได้ปรับลดประมาณการกำไรของ TCAP ลง 3.5-4.4% ในปี 2564-2566 เพื่อสะท้อนถึงสมมติฐาน credit cost ที่สูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมกับให้คำแนะนำ ถือ โดยให้ราคาเป้าหมายของปี 2565 อยู่ที่ 38 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้น TCAP ปิดล่าสุดอยู่ที่ 34.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.47% มีมูลค่าการซื้อขาย 161.90 ล้านบาท