สิงคโปร์อนุมัติฉีดวัคซีน Pfizer ฉีดในเด็กอายุระหว่าง 12-15 ปี
Singapore: กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ อนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท Pfizer เพื่อใช้ฉีดเยาวชนอายุระหว่าง 12-15 ปี ในวันอังคาร (18 พฤษภาคม) การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นขณะที่สิงคโปร์ยังปิดโรงเรียนอยู่ เนื่องจากหวาดกลัวการระบาดรอบใหม่ของโควิดกลายพันธุ์ จะเป็นอันตรายต่อเด็กมากกว่าสายพันธุ์เดิม
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิดของ Pfizer-BioNTech มีประสิทธิภาพสูงสอดคล้องกับที่พบในประชากรวัยผู้ใหญ่ และมีประวัติการใช้ปลอดภัยเหมือนกับที่ใช้ในผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน
การเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังการประกาศปิดโรงเรียนทั่วประเทศ เริ่มจากวันพุธ (19 พฤษภาคม) โรงเรียนชั้นประถม และมัธยม รวมทั้งระดับอุดมศึกษาจะเรียนจากที่บ้าน มาตรการดังกล่าวบังคับใช้ไปจนตลอดช่วงเวลาที่เหลือของเทอมนี้ สิ้นสุดในวันที่ 28 พฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม เด็กที่อายุน้อยกว่านี้ ยังห่างไกลเป้าหมายการได้รับวัคซีน ทั้งนี้ โครงการฉีดวัคซีนของสิงคโปร์ ครอบคลุมไปถึงเด็กอายุ 5 ปี โดยจะได้รับโอกาสหลังฉีดให้ผู้สูงอายุไล่ลงไปจนถึงเด็ก ส่วนประชาชนอายุระหว่าง 40-44 ปี จะได้รับเชิญให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนตั้งแต่วันพุธ (19 พฤษภาคม) นี้เป็นต้นไป
สิงคโปร์ มีประชากรกว่า 5.7 ล้านคน ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 3.4 ล้านโดส ประมาณ 1.4 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ส่วนที่เหลือฉีดวัคซีน 1 โดส เนื่องจากวัคซีนมีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอต่อความต้องการ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ จึงเลือกที่จะเว้นระยะห่างการฉีดวัคซีน ระหว่างเข็มแรก และเข็มสองออกไป โดยขยับออกจากปัจจุบันที่ห่างกัน 3 สัปดาห์ เป็น 4 สัปดาห์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมให้ประชาชนได้มากขึ้น อย่างน้อยประชาชนส่วนใหญ่ก็จะได้รับวัคซีนเข็มแรก
สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสสูงขึ้นอีก อย่างน้อยพบหนึ่งคลัสเตอร์ที่ศูนย์การศึกษา โควิดสายพันธุ์อินเดียเชื่อว่าเป็นอันตราย และเล่นงานเด็กมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขติดเชื้อที่เพิ่มอีกในขณะนี้ แต่ผู้ติดเชื้อสะสมในสิงคโปร์ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด โดยตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของไวรัสโควิด สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 61,600 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 31 คน