5 ประเทศ กฎหมายควบคุมปืนเข้มงวดที่สุด ออสเตรเลียติดโผ

สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดที่สุดในโลก แต่ก็ยังสามารถครอบครองปืนได้ แม้จะต้องใช้เอกสารมากมายก็ตาม

การจะครอบครองปืนนั้น คุณต้องเป็นสมาชิกของชมรมปืน และคุณจะต้องเก็บปืนไว้ที่ชมรม พลเมืองทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้มีปืนไว้ที่บ้าน

การขออนุญาตครอบครองปืนนั้นต้องกรอกเอกสารมากมาย จนคนอยากมีปืนอาจจะต้องท้อใจไปก่อน แถมใบอนุญาตมีอายุเพียงหนึ่งปี และต้องเสียเวลาในการกรอกเอกสารเหล่านั้นทุกปี

ใครก็ตามที่ครอบครองปืนหรือแม้แต่กระสุนปืนโดยผิดกฎหมายในสิงคโปร์ จะต้องโทษจำคุกเป็นเวลานาน โทษสำหรับการครอบครองกระสุนโดยผิดกฎหมายคือจำคุกห้าปี การยิงปืน แม้ว่าจะไม่ทำให้ใครบาดเจ็บ ก็อาจมีโทษถึงประหารชีวิตได้

ในสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่อย่างตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอกชน อยู่ภายใต้กฎหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน หากพวกเขาใช้ปืนยิงผู้กระทำผิด พวกเขาจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดและยาวนาน พวกเขาจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าการยิงเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนั้น

จีน

แม้จีนจะเป็นชาติที่คิดค้นดินปืน แต่ในประเทศจีน การครอบครองปืน ดินปืน และกระสุนปืนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดที่สุด

ญี่ปุ่น

ปืนหาซื้อและครอบครองได้ยากมากในญี่ปุ่น ปืนที่อนุญาตให้ครอบครองได้มีเพียงปืนลูกซองและปืนลมเท่านั้น ไม่มีปืนพกและปืนอัตโนมัติ

การจะได้ปืนมาครอบครองนั้นต้องผ่านขั้นตอนมากมาย คุณจะต้องเข้าร่วมอบรมความปลอดภัยในการใช้ปืนเพื่อเตรียมตัวสอบข้อเขียน ต่อมาผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบยิงที่สนามยิงปืน โดยต้องมีความแม่นยำมากกว่า 95%

หากคุณผ่านการทดสอบทั้งสองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประเมินสุขภาพจิตและการตรวจหาสารเสพติด หลังจากนั้นจะเป็นการตรวจสอบประวัติ ตำรวจอาจสอบถามเพื่อนและเพื่อนร่วมงานเพื่อขอข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับลักษณะนิสัยด้วย

สหราชอาณาจักร

การครอบครองปืนในสหราชอาณาจักรจำกัดเฉพาะปืนไรเฟิลและปืนลูกซองสำหรับกีฬาเท่านั้น ผู้ที่ต้องการครอบครองปืนจะต้องขอใบอนุญาตและลงทะเบียนปืนกับเจ้าหน้าที่ โดยต้องมีเหตุผลที่สมควร เช่น เพื่อการล่าสัตว์หรือกีฬา ส่วนการมีปืนไว้ป้องกันบ้านไม่ใช่เหตุผลที่สมควร

มีใบอนุญาตสองประเภท คือ ใบอนุญาตอาวุธปืน และใบอนุญาตปืนลูกซอง

การขอใบอนุญาตอาวุธปืนนั้นยากกว่า ผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์มระบุประเภทของปืนที่ต้องการซื้อและกระสุนที่จะใช้ นอกจากนี้ยังต้องพิสูจน์ได้ว่ามีสถานที่ปลอดภัยในการเก็บรักษาปืนด้วย

นอกจากนี้จะต้องหาบุคคลสองคนที่สามารถเป็นผู้รับรองให้คุณได้ด้วย หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ตำรวจจะติดต่อแพทย์ประจำตัวของคุณ เพื่อสอบถามเรื่องสุขภาพจิตของคุณและสอบถามความคิดเห็นของแพทย์ว่า แพทย์เชื่อมั่นว่าคุณสามารถครอบครองปืนได้หรือไม่

การขอใบอนุญาตปืนลูกซองนั้นง่ายกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปที่บ้านของคุณเพื่อสอบถามเหตุผลที่คุณต้องการครอบครองปืนลูกซอง พวกเขายังจะตรวจสอบตู้เก็บปืนของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ามีที่ปลอดภัยสำหรับเก็บปืน จากนั้นพวกเขาจะทำการตรวจสอบประวัติก่อนที่จะออกใบอนุญาตให้คุณ

ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียมีนโยบายผ่อนปรนเกี่ยวกับการครอบครองปืน แต่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา นโยบายนี้ได้เปลี่ยนไป ปัจจุบัน ออสเตรเลียต้องการที่จะห้ามไม่ให้ประชาชนครอบครองปืน โดยการทำให้กระบวนการซื้อและครอบครองปืนยุ่งยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ มีเอกสารมากมายที่ต้องกรอกเพื่อลงทะเบียน และใบอนุญาตก็ต้องต่ออายุทุกปีด้วย

ปืนยิงเร็วถูกห้ามครอบครอง ยกเว้นในกรณีพิเศษมาก ๆ การครอบครองปืนต้องมีเหตุผลที่มากพอ หนึ่งในนั้นคือการเป็นสมาชิกชมรมยิงปืน เหตุผลอื่น ๆ ได้แก่ การล่าสัตว์และการสะสมปืน ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีสัตว์ป่าชุกชุม ดังนั้นการควบคุมศัตรูพืชจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ประชาชนอาจครอบครองปืน

เมื่อรัฐบาลผ่านกฎหมายนี้ พวกเขาได้เสนอโครงการรับซื้อคืนเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนส่งมอบปืนเหล่านี้ ซึ่งส่งผลให้ปืนประมาณ 700,000 กระบอกถูกทำลาย

ปืนทุกกระบอกต้องลงทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ก็ต้องลงทะเบียนเช่นกัน

ก่อนที่คุณจะซื้อปืน คุณต้องผ่านการตรวจสอบประวัติ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสุขภาพจิตและการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดเพื่อค้นหาสิ่งต่าง ๆ เช่น การติดสารเสพติดหรือประวัติอาชญากรรมใด ๆ

และแม้ออสเตรเลียจะมีกฎหมายครอบครองปืนที่เข้มงวด แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุกราดยิงที่ชายหาดบอนไดของซิดนีย์ ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย โศกนาฏกรรมนี้ทำให้รัฐบอลออสเตรเลียปรับปรุงกฎหมายครอบครองปืน โดยสั่งซื้อปืนคืน ถือว่าเป็นคำสั่งซื้อปืนคืนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี

ขณะเดียวกัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศมาตรการควบคุมอาวุธปืนหลายชุด ซึ่งรวมถึงการจำกัดจำนวนอาวุธปืนที่ครอบครองได้ไม่เกิน 4 กระบอก

โดยค่าใช้จ่ายในการรับซื้อคืน ซึ่งคาดว่าจะทำลายอาวุธหลายแสนกระบอก จะถูกแบ่งจ่ายระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐต่าง ๆ

รัฐและดินแดนต่าง ๆ จะรับอาวุธที่ถูกส่งมอบคืน ในขณะที่ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียจะดูแลการทำลายอาวุธเหล่านั้น

นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซีประกาศให้วันอาทิตย์เป็นวันรำลึกถึงเหยื่อ 15 รายจากเหตุการณ์โจมตีที่บอนได