รีเซต

ก้าวไกล จี้เยียวยาน้ำมันรั่วมาบตาพุด 1 เดือนไม่คืบ เตรียมแก้กม.ให้ภาครัฐฟ้องเอกชนได้

ก้าวไกล จี้เยียวยาน้ำมันรั่วมาบตาพุด 1 เดือนไม่คืบ เตรียมแก้กม.ให้ภาครัฐฟ้องเอกชนได้
มติชน
25 กุมภาพันธ์ 2565 ( 14:40 )
85

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา น.ส.เบญจา แสงจันทร์ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงถึงกรณีน้ำมันรั่วจากท่อใต้ทะเลที่มาบตาพุด จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยน.ส.เบญจา กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ผ่านมา 1 เดือน ยังไม่ทราบว่าน้ำมันรั่วมีจำนวนเท่าไรกันแน่ ซึ่งชาวระยองผู้ได้รับผลกระทบทั้งพ่อค้าและแม่ค้าอาหารทะเล ชาวประมง การท่องเที่ยว นักวิชาการและคนในสังคมมีความกังวลอย่างมากว่าสารตกค้างที่แก้น้ำมันรั่วในทะเล อาจตกค้างส่งผลกระทบระยะยาวนั้น จะกลายเป็นสารปนเปื้อนที่ตกค้างอยู่ในทะเล ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและพี่น้องประชาชน และมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่สารก่อมะเร็งได้

 

รวมไปถึงเรื่องการเยียวยาที่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากบริษัทเอกชนอย่าง บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ว่าจะชดเชยกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างไร เพราะการที่บริษัทน้ำมันข้ามชาติยักษ์ใหญ่ทำน้ำมันรั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่าสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน ทำลายวิถีชาวประมง ทำลายแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และทำลายระบบนิเวศน์ทั้งในทะเลและบนบก ส่งผลด้านเศรษฐกิจท่องเที่ยวของเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกอย่างมาก กรณีเช่นนี้หน่วยงานภาครัฐต้องมีบทลงโทษอย่างเป็นรูปธรรมทันที อย่าทำเพียงแค่แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน ต้องเอาจริงเอาจังและวางมาตรการไม่ให้เกินเหตุการณ์ซ้ำอีกในอนาคต และเร่งรัดให้บริษัทเอกชนดำเนินการชดใช้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งจัดทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทันที

 

ด้านนายวรภพ กล่าวว่า จากกรณีน้ำมันรั่วซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวระยองเป็นจำนวนมาก หากรอการเยียวยาจากบริษัทเอกชน จะทำให้เกิดความล่าช้า มองว่ามีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่จ.ระยอง จึงเห็นว่าควรแก้ไขกฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้หน่วยงานภาครัฐและกองทุนสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ฟ้องภาคเอกชนแทน เพื่อนำเงินมาเยียวยามาให้กับประชาชน ซึ่งกรณีนี้จะทำให้ประชาชนได้รับหารเยียวยาที่เร็วขึ้น คาดว่า ในสมัยประชุมหน้าเมื่อมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่มีการยื่นเข้ามาแล้วก็จะสามารถนำร่างกฎหมายฉบับนี้ไปประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง