สรรพสามิตเตรียมชงครม.ประกาศใช้ภาษีบุหรี่อัตราเดียวภายในมกราปีหน้า

สรรพสามิตเตรียมชงครม.ประกาศใช้ภาษีบุหรี่อัตราเดียวภายในมกราปีหน้า

#ทันหุ้น สรรพสามิตเตรียมชงครม.ประกาศใช้ภาษีบุหรี่อัตราเดียวภายในมกราปีหน้า ชี้ลดการบิดเบือนกลไกตลาด พร้อมผลักดัน 5 ภาษีสินค้าใหม่ เน้นกลุ่มรักษาสิ่งแวดล้อม และดูแลสุขภาพประชาชน ยืนเป้าจัดเก็บปีนี้ที่ 5.78 แสนล้าน

นายพรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิตคนใหม่เปิดเผยแนวนโยบายการดำเนินงานของกรมสรรพสามิตว่า กรมฯเตรียมเสนอกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงเพื่อปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ซิกาแรตให้เป็นระบบภาษีแบบอัตราเดียว ( Uniform Tax System) เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เพื่อลดการบิดเบือนกลไกตลาด และประเมินว่า จะทำให้กรมฯมีรายได้เพิ่มขึ้น คาดว่า จะมีผลภายในเดือนมกราคมปีหน้า

เขากล่าวว่า ปัจจุบันอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่มีสองอัตรา คือ อัตราที่ 25 % สำหรับบุหรี่ที่ราคาต่อซองไม่เกิน 72 บาท และอัตรา 42 % สำหรับบุหรี่ที่มีราคาสูงกว่า 72 บาท/ซอง  ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตแข่งกันผลิตบุหรี่ราคาถูก เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด นอกจากนี้กรมฯเตรียมที่จะปรับอัตราภาษีสรรพสามิตในฝั่งปริมาณให้สูงขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การปรับให้ภาษีบุหรี่มีอัตราเดียว จำเป็นต้องมีมาตรการที่ดูแลโรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมให้โรงงานยาสูบ ผลิตบุหรี่ขายในตลาดต่างประเทศ ในส่วนของการดูแลผู้บริโภคนั้น จะควบคุมบุหรี่เถื่อน ที่ลักลอบขายในประเทศด้วย

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตถือเป็นกรมภาษีที่สามารถจัดเก็บรายได้ให้รัฐบาลเป็นอันดับสอง รองจากกรมสรรพากร ซึ่งในปีงบประมาณ 2569 กรมฯถูกตั้งเป้าหมายจัดเก็บภาษีที่ 5.78 แสนล้านบาท ขณะที่ ในปีงบประมาณ 2569 คาดว่าจะถูกตั้งเป้าหมายจัดเก็บที่  6.11 แสนล้านบาท ดังนั้น เพื่อรองรับรายได้เป้าหมายดังกล่าว ตนจึงมีนโยบายที่จะขยายฐานการจัดเก็บภาษีสินค้าใหม่ที่เน้นไปที่การรักษาสิ่งแวดล้อมและดูแลสุขภาพประชาชน

สำหรับแผนการขยายฐานภาษีของกรมฯนั้น กรมฯได้วางแผนมาตรการภาษีในอนาคตใน 6 รายการ ซึ่งหนึ่งในรายการ คือ การจัดเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว ส่วนที่เหลืออีก 5 รายการ คือ 1. การขยายฐานภาษีสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับ มาตรการการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน ( Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM) 2.การขยายฐานภาษีสินค้าหรือบริการที่ฟุ่มเฟือย 3.การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Sustainable Aviation Fuel และ Bio-base fuels

4.ภาษีความเค็ม เพื่อลดปัญหาสุขภาพที่เกิดการจากบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็น 5.ปรับโครงสร้างภาษีแบตเตอรี่ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโดยพิจารณาจากจำนวนรอบการชาร์จ ( Life Cycle)และน้ำหนักต่อการให้พลังงาน ( Electricity Density) 

“ในส่วนของภาษีโซเดียมนั้น ขณะนี้กรมฯได้ศึกษาว่าจะจัดเก็บในสินค้าตัวใดบ้าง ซึ่งมีอยู่ใน Pipe line ของกรมฯแล้ว”

ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษีนั้น อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จะนำเทคโนโลยีด้านการพัฒนาระบบตรวจสอบข้อมูลสุรานำเข้า เพื่อประเมินมูลค่าและควบคุมการจัดเก็บภาษีสุรา และทบทวนราคาแนะนำที่ใช้เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต รวมถึงทบทวนประกาศกรมสรรพสามิตเกี่ยวกับสิทธิเสียภาษี 0%  ของเครื่องดื่มประเภทน้ำพืชผักผลไม้ และการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีกิจการบริการ โดยขยายฐานภาษีให้ครอบคลุมค่าใช้บริการประเภทต่างๆให้มากขึ้น ส่วนการใช้แสตมอิเล็กทรอนิกส์หรือไดเร็คโค้ดดิ้ง ขณะนี้ ยังใช้เฉพาะสินค้าเบียร์เท่านั้น