จับ "ฌาอีร์ โบลโซนาโร" อดีตผู้นำบราซิล หวั่นหลบหนี

ฌาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีของบราซิล ถูกจับกุมหลังถูกประเมินว่าเป็น “ความเสี่ยงต่อการหลบหนีอย่างเป็นรูปธรรม” แม้ยังอยู่ภายใต้การกักบริเวณในบ้านก็ตาม
โบลโซนาโรวัย 70 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการสมคบคิดเตรียมทำรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และถูกพิพากษาจำคุกกว่า 27 ปี แต่ยังคงอยู่ภายใต้การกักบริเวณระหว่างการยื่นอุทธรณ์
อเล็กซานดรี เด โมราเอส ผู้พิพากษาแห่งศาลสูงบราซิลระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นมาตรการป้องกัน หลังมีข้อมูลใหม่ปรากฏขึ้น
โบลโซนาโรยอมรับว่าเขาพยายามใช้หัวแร้งตัดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ตั้งใจจะถอดมันออก ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลชี้ว่าเขาตั้งใจใช้การชุมนุมที่จัดขึ้นหน้าบ้านเป็นฉากบังหน้าเพื่อหลบหนี
ในเอกสารศาลที่อนุญาตให้จับกุม ผู้พิพากษาโมราเอสระบุว่า ศูนย์เฝ้าระวังการกักบริเวณของโบลโซนาโรพบความตั้งใจในการทำลายกำไลติดตามตัว เพื่อให้การหลบหนีสำเร็จ ซึ่งจะ อาศัยความวุ่นวายที่เกิดจากการชุมนุม ที่ลูกชายของเขาเป็นผู้จัดขึ้น
ฟลาเวีย โบลโซนาโร สมาชิกวุฒิสภาและลูกชายของอดีตผู้นำ โพสต์เชิญชวนผู้สนับสนุนให้มาชุมนุมใกล้บ้านของพ่อในคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน โดยเขียนว่า
“คุณจะลุกขึ้นสู้เพื่อประเทศของคุณ หรือจะนั่งดูทุกอย่างอยู่บนโซฟา? ผมเชิญคุณให้ร่วมต่อสู้กับเรา”
เขายังกล่าวว่าการชุมนุมนี้จะเป็นการสวดภาวนาเพื่อสุขภาพของเขา และเพื่อการฟื้นคืนประชาธิปไตยในประเทศของเรา
ผู้พิพากษาโมราเอสอธิบายการตัดสินใจว่า มีความเป็นไปได้ที่โบลโซนาโรจะหนีเข้าขอที่ลี้ภัยในสถานทูตต่างประเทศ โดยอ้างถึงประวัติการวางแผนขอลี้ภัยจากสถานทูตมาก่อน พร้อมระบุว่าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงบราซิเลียอยู่ห่างจากบ้านของเขาเพียง 13 กิโลเมตร
โบลโซนาโรถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจในบราซิเลีย และจะเข้ารับการไต่สวนการควบคุมตัวในวันนี้ (23 พ.ย.)
ก่อนหน้านี้ทีมทนายความของเขาเพิ่งยื่นคำร้องต่อศาลสูงเพื่อขอให้รับโทษจำคุกทั้งหมดภายใต้การกักบริเวณในบ้าน พร้อมกำไลติดตามตัว รวมถึงขออนุญาตให้เขาออกจากบ้านเพื่อรับการรักษา เนื่องจากมีโรคติดเชื้อในปอดและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ต้องติดตามเป็นประจำ
โบลโซนาโรถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานนำแผนสมคบคิดเพื่อยึดอำนาจกลับคืน หลังแพ้เลือกตั้งปี 2022 ให้แก่ประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายอย่างลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา
ผู้พิพากษาศาลสูงระบุว่า เขารับรู้ถึงแผนการที่รวมถึงการลอบสังหารลูลาและรองผู้สมัครของลูลา คือเชรัลโด อัลก์มิน รวมถึงแผนจับกุมและประหารผู้พิพากษาโมราเอส ผู้ดูแลคดีของเขา
แผนดังกล่าวล้มเหลว เนื่องจากผู้บัญชาการทหารบกและทหารอากาศไม่ให้การสนับสนุน ลูลาจึงเข้าพิธีรับตำแหน่งอย่างราบรื่นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023
แต่หนึ่งสัปดาห์ถัดมา ผู้สนับสนุนโบลโซนาโรกว่าพันคนบุกทำลายอาคารรัฐสภา ศาลฎีกา และทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงบราซิเลีย เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์และจับกุมผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คน
ศาลระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้รับแรงปลุกระดมจากโบลโซนาโร ซึ่งหวังให้กองทัพแทรกแซงและพาตนกลับสู่อำนาจ
สำหรับโทษจำคุก 27 ปี 3 เดือน ถูกทีมทนายของเขาวิจารณ์ว่าเกินขอบเขตอย่างไร้เหตุผล นอกจากนี้ เขายังถูกสั่งห้ามดำรงตำแหน่งสาธารณะจนถึงปี 2060 นานกว่าโทษจำคุกที่เขาต้องรับ
โบลโซนาโรเรียกการพิจารณาคดีนี้ว่าเป็น “การล่าแม่มด” และกล่าวว่าเกิดขึ้นเพื่อกันไม่ให้เขาลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2026
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
