รีเซต

เด็กชาย7ขวบลอบเข้าสหรัฐ ตามลำพัง แม่ตัดใจ ขอให้ลูกไปต่อได้

เด็กชาย7ขวบลอบเข้าสหรัฐ ตามลำพัง แม่ตัดใจ ขอให้ลูกไปต่อได้
ข่าวสด
18 เมษายน 2564 ( 22:29 )
67
เด็กชาย7ขวบลอบเข้าสหรัฐ ตามลำพัง แม่ตัดใจ ขอให้ลูกไปต่อได้

เด็กชาย7ขวบลักลอบเข้าสหรัฐ - เดลีเมล์ รายงานชะตาการต่อสู้เอาชีวิตรอกของ เด็กชายชาวฮอนดูรัส อายุ 7 ขวบ ต้องระหกระเหินล่องแพข้ามพรมแดนเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาไปตามลำพัง โดยไม่มีแม่มาด้วย เพราะแม่ไม่อยากเป็นตัวถ่วง ขอให้ลูกข้ามไปต่อได้

 

 

ด.ช. กาเอล อาศัยติดตามผู้อพยพ 11 คนล่องแพยางมาตามแม่น้ำริโอกรานเด ประเทศเม็กซิโก มาถึงเมืองโรมา รัฐเท็กซัสของสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ 12 เม.ย. นาทีนั้นมีทีมข่าวโทรทัศน์บันทึกภาพไว้ได้

 

 

เด็กชายกล่าวกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ยูนิวิชันว่า อยากกลับบ้านในฮอนดูรัสและคิดถึงแม่ ก่อนหน้านี้ เคยพยายามเข้าสหรัฐกับแม่มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐ ครั้งนี้แม่ให้เดินทางมาตามลำพัง ส่วนแม่กลับไปเม็กซิโก

 

 

ด.ช.กาเอล (ซ้ายสุด) จับมือกับผู้อพยพคนอื่นๆ เมื่อผ่านเข้าพรมแดนสหรัฐได้

ก่อนออกเดินทางข้ามแม่น้ำเชี่ยวกรากที่กลืนชีวิตผู้อพยพไปหลายคน แม่กำชับลูกรักว่า ให้ดูแลตัวเองและศรัทธาในพระเจ้า

นายริซี อาวาเรซ ผู้อพยพซึ่งเดินทางมากับลูกสาวกล่าวว่า ด.ช.กาเอลถือเอกสารที่มีที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของพ่อในสหรัฐ

 

ล่องเรือข้ามแม่น้ำอันตรายจนถึงฝั่ง

 

ส่วนแฟนนี รามอส ซึ่งมากับลูกสาวอายุ 6 ปีกล่าวว่าเห็นด.ช. กาเอลขึ้นแพที่โกดังแห่งหนึ่งพร้อมกับแก๊งลักลอบพาข้ามพรมแดนอีกหลายคนและไว้ใจให้ผู้อพยพดูแลเด็กชาย

 

การตัดใจจากลูกของมารดาด.ช.กาเอล เนื่องจากเห็นช่องทางที่นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกนโยบายอนุญาตให้เด็กที่ไม่มีผู้ใหญ่ข้ามพรมแดนมาด้วยอยู่ในอเมริกาได้

ด.ช.กาเอล เดินทางมาครั้งนี้ ไม่มีแม่

 

แม้รัฐบาลของนายไบเดนให้ความสำคัญกับหลักมนุษยธรรมต่อการจัดการวิกฤตผู้อพยพข้ามพรมแดนตอนใต้มากกว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การผ่อนปรนนี้ทำให้กระแสผู้อพยพหลั่งไหลข้ามแดนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ตำรวจตระเวนชายแดนเปิดเผยสถิติผู้อพยพข้ามแดนเฉพาะเดือน มี.ค. มีถึง 172,331 คน ส่วนเดือน ก.พ. มีผู้อพยพ 101,028 คน

เดือน มี.ค. มีเด็กที่เดินทางลำพัง 18,663 คนได้รับการส่งตัวไปสถานที่ควบคุม ขณะที่เดือน ก.พ. มีเด็กข้ามพรมแดนผิดกฎหมายจากเม็กซิโกมาสหรัฐฯ 9,271 คน

 

สำหรับผู้ที่อพยพข้ามแดนผิดกฎหมายทั้งหมดจะต้องถูกผลักดันออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบายเดิมของรัฐบาลทรัมป์ โดยให้กลับทางด้านจุดผ่านแดนต่างๆ แทนที่จะส่งไปยังสถานีตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อลดความเสี่ยงผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารของลี้ภัยติดโควิด-19

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง