ส่อง ‘หุ้น VI ราคาถูก’ รับเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้น
สปอตไลท์เริ่มกลับมาจับจ้องญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อเร็วๆ นี้ โลกได้สูญเสียอดีตนายกรัฐมนตรี ‘ชินโสะ อาเบะ’ ผู้กอบกู้ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่รับตำแหน่งปี 2555-2563 จนพลิกฟื้นชีพจรเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้สามารถกลับมาเติบโตในปัจจุบันอีกครั้ง โดยปี 2564 เศรษฐกิจญี่ปุ่น กลับมาขยายตัว 1.7% ครั้งแรกในรอบ 3 ปี และไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า GDP ของญี่ปุ่น ขยายตัว 2.4% ในปี 2565 และ 2.3% ในปี 2566
ญี่ปุ่น ดูจะเป็นประเทศเดียวที่พอมีข่าวดีออกมาสวนกระแสเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญโจทย์หินจากเงินเฟ้อสูง จำเป็นต้องเหยียบคันเร่ง ‘ขึ้นดอกเบี้ยแรงและเร็ว’ แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงโอกาสเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในหลายๆ ประเทศได้ ล่าสุดสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.50% -1.75% หลังจากที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง 3 ครั้งแล้วในรอบปีนี้
เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ส่งสัญญาณว่า ‘เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง’ และล่าสุด ยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างผ่อนคลายต่อเนื่อง ด้วยคงอัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% เหมือนเดิม
ในรายงานเศรษฐกิจและเงินเฟ้อประจำไตรมาสล่าสุดจากธนาคารกลางญี่ปุ่น ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจใน 7 ภูมิภาคย่อยของญี่ปุ่นจากทั้งหมด 9 ภูมิภาค ซึ่งเป็นมุมมองที่ดีขึ้นจากรายงานประจำไตรมาสที่แล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น จะเจอข้อจำกัดด้านอุปทานจากการล็อกดาวน์ในจีน และความกังวลเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ BOJ ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น
นาย Haruhiko Kuroda ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ออกมากล่าวสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนว่า “เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวต่อไป แม้จะมีแรงกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นในตลาดโลก”
- เปิดขุมทรัพย์ลับ ‘หุ้น VI’ โอกาสลงทุนในแดนอาทิตย์อุทัย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าทึ่งมาก เพราะแม้เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักหลังแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ญี่ปุ่นก็สามารถฟื้นตัวและเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ในแบบที่ประเทศอื่นก็อาจทำไม่ได้ แม้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก แต่กลับมีขนาดเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ติดอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และ จีน เท่านั้น นั่นก็เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตจากในประเทศและการออกไปลงทุนนอกประเทศทั่วโลก
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกเช่นกัน หุ้นหลายๆ บริษัทมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวจัดเป็นหุ้นคุณค่า หรือ VI อย่างแท้จริง แต่น่าแปลกที่พบว่า นักลงทุนทั่วโลกกลับไม่สนใจตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากนัก
ช่วงที่ผ่านมา ‘หุ้นญี่ปุ่น’ เป็นตลาดหุ้นนอกสายตาของนักลงทุน ทั้งๆ ที่ถือเป็น ‘ขุมทรัพย์ที่เหลืออยู่ไม่กี่แห่งในโลกการลงทุน’ ตัวผมมองเห็น 4 จุดเด่นของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตของพอร์ตลงทุน
จุดเด่นแรก หุ้นญี่ปุ่น จัดเป็น ‘หุ้นดีราคาถูก’ ตามเกณฑ์ Net-Nets ของ Benjamin Graham
จุดเด่นที่สอง การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กและขนาดกลาง แข็งแกร่งกว่า 30% สูงกว่าบริษัทขนาดใหญ่
จุดเด่นที่สาม การปฏิรูปเศรษฐกิจกำลังเห็นผล หลังจากที่นายชินโสะ อาเบะ ได้วางรากฐาน ‘Abenomics’ ในสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ดันบริษัทญี่ปุ่นกลับสู่สังเวียนการค้าโลกอย่างภาคภูมิ
จุดเด่นที่สี่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก โดย World Economic Forum
- สแกน 3 อุตสาหกรรมใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ภาพจำของคนส่วนใหญ่จะนึกถึงบริษัทใหญ่ๆ ของญี่ปุ่น มีพวก Sony Toyota Daikin Uniqlo หรือ Nintendo ที่คนส่วนใหญ่เป็น กลุ่มลูกค้าที่ใช้สินค้าและบริการของบริษัทเหล่านี้กันเป็นประจำ
จริงๆ ญี่ปุ่นยังมีหุ้นใหญ่ชื่อดังที่อยู่ในอุตสาหกรรมหลักที่ได้รับการยอมรับความน่าเชื่อถือจากทั่วโลก ที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์สมบัติลับในตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผมจะพาคุณรู้จักตลาดหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้นสะท้อนผ่าน 3 อุตสาหกรรมใหญ่ และหุ้นใหญ่ 5 บริษัทที่ติดอันดับใน Jitta Ranking ญี่ปุ่น เพื่อเป็นอีกทางเลือกของจุดหมายการลงทุนของคุณ
ภาพรวมของ 3 อุตสาหกรรมที่โดดเด่นในญี่ปุ่น ที่คนไทยไม่ค่อยรู้กันมากนัก ได้แก่ อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาห กรรมเหมืองแร่
อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ เนื่องด้วยญี่ปุ่นติดโผประเทศที่มีประชากรอายุยืน 3 อันดับแรกของโลกเสมอ ข้อมูลสถิติจากธนาคารโลกระบุว่าคนญี่ปุ่นมีอายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดสูงถึง 84.6 ปีทั้งจากภูมิปัญญาด้านอาหารการกินที่เป็นที่นิยมในหลายประเทศ ระบบรักษาพยาบาลที่ยอดเยี่ยม งานวิจัยได้รับการยอมรับทางแพทย์ทั่วโลก รวมถึงการตรวจคัดกรองโรคบางชนิดในประเทศที่ให้บริการฟรีอีกด้วย
ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เป็นที่ต้องการอยู่เสมอหลังจากที่ญี่ปุ่นบอบช้ำจากผลของสงครามมามาก คนญี่ปุ่นต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งในแง่การป้องกันและรักษาโรค ข้อมูลจาก EY ระบุว่า ครอบครัวคนญี่ปุ่นถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพสูงถึง 90% ของครัวเรือนทั้งหมด ถือเป็นตัวเลขสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกทีเดียว ทำให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในญี่ปุ่นไม่เคยหยุดพัฒนาจนถึงปัจจุบันนี้เลย จึงทำให้อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในญี่ปุ่นน่าจับตามองเป็นอย่างมาก
อุตสาหกรรมก่อสร้าง ญี่ปุ่นมีการก่อสร้างตึกรามบ้านช่องได้รวดเร็วปานจรวด และยังมีวิธีการก่อสร้างที่ทำให้ตึกแข็งแรงทนทาน จนมีอายุการใช้งานยืนยาวมาก นั่นเพราะคนญี่ปุ่นต้องต่อสู้กับภัยทางธรรมชาติแรงๆ อย่างแผ่นดินไหวหรือสึนามิเป็นประจำ จึงผลักดันให้คนญี่ปุ่นต้องหาวิธีก่อสร้างอาคารบ้านเรือนให้ทนทานต่อภัยธรรมชาติเหล่านี้ให้ได้ จริงๆ อุตสาหกรรมก่อสร้างในญี่ปุ่นมีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศมาตั้งแต่สมัยเมจิปี 2410 แล้ว และพัฒนาเร็วขึ้นอีกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดของญี่ปุ่นครับ
ปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ของญี่ปุ่นมีคุณภาพยอดเยี่ยม และมีนวัตกรรมการก่อสร้างแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ ทุกคนรู้สึกอุ่นใจเมื่อรู้ว่า ตึกดังกล่าวถูกสร้างโดยคนญี่ปุ่น
อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีต่างๆ ของประเทศ จำเป็นต้องพึ่งพาแร่ธรรมชาติจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นไม่ได้มีแร่ธาตุหายากหรือทรัพยากรบนชายฝั่งมากนัก แต่ญี่ปุ่นถือเป็นผู้นำในด้านการสำรวจและค้นพบแร่ธาตุหายากใต้ทะเลลึกของมหาสมุทรแปซิฟิก ความยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น คือ การเป็นผู้ผลิตและส่งออกแร่ธาตุหายากหลายชนิดของโลก ไม่ว่าจะเป็นแร่ไอโอดีนที่ใช้ผลิตยารักษาโรคหลากหลายชนิด แร่บิสมัทที่มีประโยชน์ทั้งทางด้านการแพทย์ และความสวยความงาม รวมถึงแร่สารพัดประโยชน์อย่างกำมะถัน
ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ญี่ปุ่นจึงสามารถขุดเจาะใต้ทะเลลึกเพื่อนำแร่ธาตุหายากขึ้นมาเป็นทรัพยากรของประเทศได้อีกครั้ง ช่วยสร้างกำไรมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ญี่ปุ่น จนสามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้
อุตสาหกรรมเหมืองแร่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปข้างหน้า การขุดเจาะสินแร่เหล่านี้ได้ภายในประเทศจึงทำให้ญี่ปุ่นมีข้อได้เปรียบเหนือประเทศ อื่นๆ ในบางอุตสาหกรรม
-ส่อง 5 หุ้นราคาถูกน่าคบหาในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
มาเจาะดูหุ้นที่น่าสนใจใน 3 อุตสาหกรรมนี้ มีอะไรบ้างนั้น ผมขอแนะนำตัวท็อปหลักๆ ที่ติด 5 อันดับใน Jitta Ranking - Japan ดังนี้
บริษัท BML อยู่อันดับ 3 ใน Jitta Ranking ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งบริษัทเฮลท์แคร์ของญี่ปุ่นที่มีธุรกิจโดดเด่น เป็นผู้ให้บริการด้านการทดสอบและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเเพทย์ ซึ่งเน้นการทดสอบโลหิตเเละชีวเคมีเป็นหลัก รวมถึงให้บริการวิเคราะห์สารเคมีทางการเกษตรที่ตกค้างด้วย ผลดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงกระแสเงินสด 39,909 ล้านเยน และหุ้นมี Market Cap. ราว 148,500 ล้านเยน ค่า PE เพียง 3.7เท่า
บริษัท Chugai Pharmaceutical อยู่อันดับ 4 ใน Jitta Ranking ญี่ปุ่น ถือเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องโดยตรงในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เลย มีธุรกิจที่แข็งแกร่งหลายด้าน นำโดยผู้ผลิตยาต้านเซลล์มะเร็งชั้นนำในญี่ปุ่น โดยร่วมมือกับบริษัทยาจากสวิตเซอร์แลนด์เพื่อพัฒนายาต้านมะเร็งคุณภาพสูง พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีจีโนมิกส์เพื่อวิเคราะห์และรักษาโรคมะเร็งในระดับพันธุกรรมรายบุคคล ผลงานของหุ้นตัวนี้ มีแนวโน้มการเติบโตที่สม่ำเสมอในช่วง 5 ปี งบการเงินปีล่าสุด รายได้รวมเติบโต 24.07% กำไรสุทธิเติบโต 41.10% กระแสเงินสดสูงถึง 2.13 แสนล้านเยนทีเดียว และหุ้นมี Market Cap. อยู่ที่ราว 6.0 ล้านล้านเยน ส่วน PE สูงหน่อยราว 20 เท่า
CTI Engineering อยู่อันดับที่ 7 ใน Jitta Ranking ญี่ปุ่น เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ทั้งด้านงานวิศวกรรมโยธาและงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการวางแผน การวิจัย การทำกำหนดการ การออกแบบ และบริการการจัดการโครงการ หุ้น CTI Engineering มีรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 28% เนื่องจากงานด้านวิศวกรรมโยธาและการก่อสร้างในญี่ปุ่นได้รับความเชื่อมั่นจากทั่วโลกนั่นเอง บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงดุจหินผาด้วยการเติบโตสม่ำเสมอ 5 ปีที่ผ่านมา โดยงบการเงินปีล่าสุด รายได้รวมเติบโต 14.14% กำไรสุทธิเติบโต 22.49% กระแสเงินสด 4,984 ล้านเยน หุ้นมี Market Cap. อยู่ที่ราว 36,800 ล้านเยน ค่า PE เพียง 4.9 เท่า
บริษัท MITSUI-SOKO HOLDINGS อยู่อันดับ 8 ใน Jitta Ranking ญี่ปุ่น เป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ที่มีทั้งให้บริการจัดเก็บ ขนส่ง และกระจายสินค้าผ่านคลังสินค้า จนถึงธุรกิจศูนย์คอนเทนเนอร์เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งหลายช่องทางเข้าด้วยกัน ขณะที่แนวโน้มการเติบโตที่สม่ำเสมอใน 5 ปีล่าสุด และมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 24% กระแสเงินสด 17,712 ล้านเยน ส่วน Market Cap. อยู่ที่ราว 1.1 ล้านล้านเยน ค่า PE ต่ำระดับ 4.3 เท่า
บริษัท Sumitomo Metal Mining อยู่อันดับ 11 ใน Jitta Ranking ญี่ปุ่น เป็นบริษัทระดับโลกที่ทำธุรกิจหลากหลายและขยายตัว โดยทำธุรกิจเหมืองเเร่ครบวงจร เป็นผู้ผลิตเเละจำหน่ายแร่เหล็ก ทองเเดง นิกเกิล เเละโลหะมีค่าอื่นๆ และยังทำธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และให้บริการทางวิศวกรรม เรียกว่าเป็นบริษัทที่มีธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และก่อสร้างที่แข็งแกร่งของประเทศญี่ปุ่น
ผลดำเนินงานของ Sumitomo Metal Mining มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 52% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งปีล่าสุด รายได้รวมเติบโต 35.95% กำไรสุทธิเติบโต 197.07% กระแสเงินสดสูงถึง 1.64 แสนล้านเยน และหุ้นมี Market Cap. อยู่ที่ราว 1.1 ล้านล้านเยน ที่สำคัญ P/E เฉลี่ยต่ำประมาณ 6.0 เท่า
จะเห็นว่าบริษัทที่ติดอันดับต้นๆ ในแผน Jitta Ranking ญี่ปุ่นที่ผมพูดถึง จะกระจายอยู่ในหลายอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ที่ยังมีศักยภาพเติบโตอยู่ตลอด จนต้องบอกว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมี ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ อีกมากที่เรียกว่าเป็น ‘แรร์ไอเทม’ และเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการปั้นพอร์ตให้เติบโต
นี่คือภาพตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีความน่าดึงดูดใจอยู่เสมอครับ ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมหลักๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และธุรกิจที่มั่งคงของ 5 บริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในสถานการณ์การลงทุนที่เอาชนะตลาดได้ยาก เพราะมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ผมอยากให้หันมามองการลงทุนใน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ คุณจะเห็นโอกาสการลงทุนก่อนคนอื่นครับ
การลงทุนใน ‘หุ้นญี่ปุ่น’ เหมาะกับใครบ้างนั้น ผมคิดว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายเงินลงทุนในตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วในเอเชีย ซึ่งมีเสถียรภาพสูง ช่วยบาลานซ์ความเสี่ยงจากตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปด้วย หรือผู้ที่อยากลงทุนในหุ้นคุณภาพดี กำไรโตสูงสุดในเอเชีย และราคาที่จับต้องได้ และคนที่อยากปั้นพอร์ตให้เกาะกระแสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งจะเริ่มต้น
ที่มา ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ บลจ.จิตตะเวลธ์
ภาพประกอบ Jitta Wealth ,พิกซาเบย์