PTTEP ประกาศแผนใหม่ 5 ปี
#PTTEP #ทันหุ้น - PTTEP ปรับประมาณการสะท้อนแผนธุรกิจฉบับใหม่แผนธุรกิจ 5 ปีฉบับใหม่ (ปี 2567 - 2571)
ประกาศแผนธุรกิจ 5 ปีฉบับใหม่ (ปี 2567 - 2571) สาระสำคัญดังนี้ปริมาณผลิตอยู่ที่ 710, 733, 744, 739, 808 kboed ตามลำตับ ปริมาณขายอยู่ที่ 505, 523, 534,531, 587 kboed ตามลำดับ หากเทียบแผนเดิม (ปลายปี 2565) พบว่า Guidance ปริมาณขายปี 2567 - 2569 ใกล้เคียงเดิม แต่ปี 2570 ลดลงเหลือ 531 kboed (จาก 550 kboed) เพราะความล่าช้าโครงการ Mozambique LNG, Algeria HBR (Phase 2), Lang Lebah งบประมาณรายจ่ายรวม 32.6 พันล้านเหรียญฯ (CAPEX 20.8 พันล้านเหรียญฯ และ OPEX 11.8พันล้านเหรียญฯ) เพิ่มขึ้นจากแผนเดิม +12% จาก
1) ต้นทุนพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้นจากแปลงปิโตรเลียมในมาเลเซีย และ Mozambique LNG
2) โครงการใหม่ เช่น Abu Dhabi Offshore
3)ค่าใช้จ่ายติดตั้งแท่นขุดเจาะ และเรือขนส่งเพิ่มขึ้นจากกิจกรรม E&P ทั่วโลกสูงขึ้นตามราคาน้ำมันเป้าหมายลดคาร์บอน 30% ภายในปี 2573 และ 40% ภายในปี 2583 บริษัทฯ ตั้งงบโครงการ Decarbonization ปี 2567 - 2571 รวม 516 ล้านเหรียญฯ โดยราว 300 ล้านเหรียญฯ รองรับโครงการ CCS ของแหล่งอาทิตย์ และ Lang Lebah (เริ่มเปิดใช้งานปี 2570 - 2571)
นอกจากนี้ ยังตั้งงบสำรองอีก 2.0 พันล้านเหรียญฯ รองรับ Energy Transition เช่น พลังงานหมุนเวียนนอกชายฝั่ง,โครงการ CCS as a service, ธุรกิจไฮโดรเจนเห็นความเสี่ยงจาก CAPEX - OPEX สูงขึ้น ปรับกำไรปี 2567 ลง 7%ภาพรวมปริมาณขายปี 2567 - 2569 ถือว่าไม่ได้แตกต่างจากสมมติฐานของเราอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ บล.หยวนต้ามีมุมมองค่อนไปทางลบต่อแผนธุรกิจครั้งนี้ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ OPEX เป็นความเสี่ยงต่อสมมติฐาน Unit Cost ดังนั้นจึงปรับสมมติฐาน Unit Cost ปี 2567 ขึ้น 3% เป็น US$28.2/boe และปรับ CAPEX ให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจใหม่ ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 7% เป็น 6.8 หมื่นล้านบาท(-14% YoY) และราคาเหมาะสมใหม่ 165.00 บาท (เดิม 175.00 บาท) ติดตามโครงการ Mozambique กรณีเลวร้ายอาจเป็นความเสี่ยงต่อ 4Q66 แผน COD โครงการ Mozambique ขยับออกไปราว 1 ปี เป็น 1H71 บนสมมติฐานว่าจะสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ช่วง 1Q67 ล่าสุดผู้บริหรให้ข้อมูลว่าปัจจุบันสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้แล้ว (คาดประกาศอย่างเป็นทางการใน 1Q67 อย่างไรก็ตามโดยปกติช่วงสิ้นปี Auditor จะเข้าประเมินประโยซน์ทางเศรษฐศาสตร์ของโครงการ ซึ่งปัจจัยพิจารณา ได้แก่ ความล่าช้าของการก่อสร้าง, ต้นทุนโครงการเพิ่มขึ้น,สมมติฐานราคาพลังงาน กรณีเลวร้ายบริษัทฯ อาจบันทึกค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์ใน 4Q66 และเป็นความเสี่ยงต่อกำไรปี 2566
คงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสมใหม่ 165.00 บาทเชิงกลยุทธ์สามารถก็งกำไรตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันได้ เพราะราคาน้ำมันระดับต่ำ US$70 ถือว่า Downside จำกัด อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำเพียง TRADING เท่านั้น เพราะโมเมนตัมกำไรปี้ 2567 ชะลอตัว, มีปัจจัยเสี่ยงจากโครงการ Mozambique และธุรกิจในเมียนมา, โอกาสถูกตลาดปรับลตประมาณการ จากงบประมาณรายจ่ายของแผนธุรกิจฉบับใหม่