รีเซต

จริงหรือไม่? อย่าสระผมก่อนอาบน้ำเพราะอาจทำเส้นเลือดในสมองแตก

จริงหรือไม่? อย่าสระผมก่อนอาบน้ำเพราะอาจทำเส้นเลือดในสมองแตก
TNN ช่อง16
7 พฤษภาคม 2565 ( 17:05 )
100
จริงหรือไม่? อย่าสระผมก่อนอาบน้ำเพราะอาจทำเส้นเลือดในสมองแตก

วันนี้ ( 7 พ.ค. 65 )ตามที่มีการแชร์ข้อความประเด็นเรื่องไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำ เพราะทำให้เส้นเลือดแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากที่มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพว่าไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำ เพราะทำให้เส้นเลือดแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภท คือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง ซึ่งโดยภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้ คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ เป็นต้น สำหรับโรคหลอดเลือดในสมองที่เกิดในห้องน้ำ มักเกิดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ หรือยืนปัสสาวะ มากกว่าขณะอาบน้ำ ซึ่งส่วนมากมันเกิดเป็นหลอดเลือดสมองแตก เหตุผลส่วนหนึ่งจากการเบ่งอุจจาระ ทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น จึงทำให้หลอดเลือดที่เปราะบางแตกออกได้ ส่วนการยืนปัสสาวะ ทำให้มีการลดลงของความดันโลหิต และการเต้นของหัวใจ ทำให้เกิดอาการหน้ามืด หมดสติ และภาวะหลอดเลือดสมองขาดเลือดจากภาวะความดันต่ำได้ การแช่น้ำอุ่นนานๆ เช่น แช่ออนเซน แล้วขึ้นจากน้ำก็พบอาการหน้ามืด หมดสติ และภาวะหลอดเลือดสมองขาดเลือดจากภาวะความดันต่ำได้เช่นกัน จากหลอดเลือดขยายตัว ส่วนประเด็นเรื่องการอาบน้ำเย็นเริ่มจากเท้าขึ้นมา ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง   

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือโทร. 02 3069899

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่พบการสระผมก่อนอาบน้ำจะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับโรคหลอดเลือดในสมองที่เกิดในห้องน้ำ มักเกิดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระหรือยืนปัสสาวะ มากกว่าขณะอาบน้ำ

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข


ข้อมูลจาก :  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม 

ภาพจาก :  AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง