แนวโน้มราคา Bitcoin - Top 4 เเหรียญดิจิทัลสัปดาห์นี้ เป็นอย่างไร ?
วันนี้ (6 ก.ค.64 ) ราคาบิตคอยน์ปรับลง -2.59% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 33,939.70 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1,090,143.16 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 26.83 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลล่าสุด เมื่อเวลา 8:13:58 น. ที่ผ่านมา
โดยในสัปดาห์นี้มีประเด็นที่น่าจับตา ได้แก่ รายงานว่าตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์ (PSE) กําลังมองเหรียญ cryptocurrency ถือเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งแล้ว และเตรียมเปิดให้บริการซื้อขายในประเทศได้ ซึ่งนาย Ramon Monzon ประธานและ CEO ของ PSE กล่าวถึงเหตุผลที่ผู้คนควรเทรดคริปโตที่ PSE ว่า “เป็นเพราะเรามีโครงสร้างพื้นฐานในการซื้อขาย แต่ที่สําคัญกว่านั้น เราสามารถคุ้มครองนักลงทุนได้”
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน Crypto ที่ลงทะเบียนแล้ว จนถึงธนาคารกลางในประเทศอย่าง Bangko Sentral ng Pilipinas ยังได้ออกใบอนุญาตให้เว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัล 17 แห่งในประเทศสามารถเปิดดําเนินการได้แล้ว
ในเดือนมกราคม ธนาคารกลางได้กระชับกฎเกณฑ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น “เราได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้เว็บกระดานเทรดเหรียญคริปโตในช่วงสามปีที่ผ่านมา และตอนนี้มันสมควรแล้วที่เราจะขยายขอบเขตของกฎระเบียบที่มีอยู่เพื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมการเงินนี้ และกําหนดความคาดหวังในการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม” BenjaminDiokno ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กล่าว
รวมไปถึงประเด็นที่ Grayscale กองทุนจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนําของโลก เปิดเผยว่าได้ปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอโดยให้เหรียญ ADA ของ Cardano กลายเป็นเหรียญที่พวกเขาถือเยอะเป็นอันดับ 3 ของเหรียญคริปโตทั้งหมดแล้ว
ซึ่งตามประกาศเมื่อวันก่อน Grayscale ได้ปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอของGrayscale Digital Large Cap Fund “โดยการขายส่วนประกอบกองทุนที่มีอยู่จํานวนหนึ่งตามสัดส่วน และใช้เงินสดที่ได้รับไปซื้อ Cardano (ADA)” โดยอ้างอิงจากตารางของทางบริษัทฯนั้นเผยว่าเหรียญ ADA ถือเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามรองจาก Bitcoin และ Ethereum โดยคิดเป็น 4.26% ของพอร์ตทั้งหมด
ทั้งนี้ Bitkub.com หรือ บิทคับ ผู้ให้บริการซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ สินทรัพย์ดิจิทัล โดยในสัปดาห์นี้มีเหรียญดิจิทัลที่น่าจับตา 4 อันดับแรก ได้แก่
1. Bitcoin
มองว่าสัปดาห์นี้จะอยู่ในกรอบระหว่าง $31,000 (~998,091 บาท) ถึง $42,451.67 (~1,366,795 บาท) ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หลังจากที่ขาลงไม่สามารถกดดันราคาให้ตํ่ากว่าแนวรับ จึงบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่กําลังพยายามฟื้นตัว
แนวโน้มขาขึ้นได้ผลักดันราคาให้สูงกว่า เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ที่ $34,993(~1,126,652 บาท) และตอนนี้จะพยายามผลักดันราคาให้สูงกว่า ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50) $36,597 (~1,178,295 บาท) ขณะที่ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์(RSI) บ่งชี้
ว่าอาจมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นต่อ
หากผู้ซื้อสามารถผลักดันราคาให้ยืนเหนือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50) ราคา BTC อาจพุ่งขึ้นไปยังแนวต้านที่ $41,330 (~1,330,681 บาท) ถึง $42,451.67(~1,366,795 บาท) แต่จะเจอเข้ากับแนวต้านที่แข็งแรง และราคาอาจเกิดการกลับตัวจากแนวต้านนี้ หากราคากลับตัวจากแนวต้านนี้
ราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มเดิมไปอีกสองสามวัน
ในทางกลับกัน หากราคาพลิกตัวกลับจาก ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50) และทะลุตํ่ากว่า$32,700 (~1,052,825 บาท) ขาลงจะพยายามทําให้ราคาตํ่ากว่า$31,000 (~998,091 บาท) อีกครั้ง หากสําเร็จ ราคาอาจลงไปยังแนวรับที่สําคัญถัดไปที่ $28,000 (~901,502 บาท)
2. ETH/USDT
ราคา Ethereum (ETH) ทะลุ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ที่ $2,193 (~70,606 บาท)ในวันที่ 30 มิถุนายน แต่แนวโน้มไม่สามารถรักษาระดับที่สูงขึ้นได้เพราะแรงขายได้ดึง ราคากลับมาตํ่ากว่า เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ในวันที่ 1 กรกฎาคม และพยายามกดดันราคาไม่ให้ยกตัวสูงขึ้นไปยืนเหนือเส้นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การกลับตัวของราคาจาก $2,018.50(~64,988 บาท) ในวันที่ 2 กรกฎาคม บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นได้เปลี่ยนเป็นบวก และมีกําลังซื้อเพิ่มขึ้นจากการลดลงของราคา แนวโน้มขาขึ้นดันราคากลับให้ยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20) ในวันที่ 3 กรกฎาคม และดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์(RSI) ที่พยายามขึ้นเหนือ 52 จุด บ่งชี้ว่าตลาดมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น ถ้าตลาดยังดําเนินต่อไปแบบนี้ แนวโน้มขาขึ้นอาจผลักดันราคาให้ทะลุเส้นแนวโน้มขาลง และราคาขอาจเพิ่มขึ้นเป็น$2,990.05 (~96,269 บาท)
มุมมองเชิงบวกนี้จะถูกยกเลิก หากราคาถูกกดดันให้ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50) ที่ $2,437(~78,462 บาท) และอาจลงไปถึงแนวรับที่ $2,000 (~64,393 บาท)
3. UNI/USDT
ราคา Uniswap (UNI) ดีดตัวขึ้นจาก $13 (~418 บาท) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน และพุ่งขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20 วัน) ที่ $19.50 (~627 บาท)เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งเป็นสัญญาณบวก อีกทั้งRSI ได้เพิ่มขึ้นสู่จุดกึ่งกลาง บ่งชี้ถึงแรงขายที่มีน้อยกว่าแรงซื้อ
ราคาสามารถขึ้นสู่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน(SMA 50) ที่ $22.99 (~740 บาท) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเจอแนวต้านอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากผู้ซื้อไม่สามารถตรึงราคาไว้ได้ แนวโน้ม
อาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นขาลง เพราะความเชื่อมั่นที่ลดลง อาจทําให้เกิดแรงขายเพิ่มขึ้น
หากเป็นเช่นนั้น ราคาอาจพักตัวเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายระยะ 50 วัน (SMA 50) จากนั้น ราคาอาจค่อย ๆ ขึ้นไปสู่แนวต้านที่ $30 (~965 บาท) ในทางตรงกันข้าม หากราคาพลิกกลับและทะลุตํ่ากว่า $16.93 (~545 บาท) แรงขายอาจดึงราคาลงมาที่$13 (~418 บาท) อีกครั้ง
4. AAVE/USDT
Aave ดีดตัวขึ้นเหนือเส้นแนวโน้มขาลง เมื่อวันที่ 29มิถุนายน บ่งชี้ว่าแรงขายอ่อนตัวลง หลังจากที่แนวโน้มขาลงพยายามกดดันราคาที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชีย
ลระยะ 20 วัน (EMA 20 วัน) วัน $252 (~8,113 บาท) แต่ไม่สามารถดันราคาให้ลดตํ่าลงได้ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นอยู่ในการควบคุม
แนวโน้มขาขึ้นได้ผลักดันราคาให้อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน (EMA 20 วัน) ในวันที่ 3กรกฎาคม บ่งชี้ถึงโอกาสที่แนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง และราคาอาจพยายามพลิกแนวรับเดิมที่ $280 (~9,015 บาท) กลับมาเป็นแนวต้านใหม่ แต่ถ้าแนวโน้มขาขึ้นไม่ยอมให้ราคาลดลงตํ่ากว่า $215.62(~6,942 บาท) โอกาสที่ราคาจะทะลุแนวต้านที่ $290 (~9,336 บาท)ก็จะมีสูงขึ้น และอาจหนุนให้ราคาสามารถขึ้นไปยัง $321 (~10,335บาท) และ $400 (~12,878 บาท) ตามลําดับ
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลระยะ 20 วัน(EMA 20 วัน) ที่แบนราบ และ RSI ใกล้จุดกึ่งกลางส่งสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นพยายามที่จะกลับมา มุมมองเชิงบวกนี้จะถูกยกเลิกหาก AAVE ลดลงจากระดับปัจจุบัน และตํ่ากว่า $215.62 (~6,934บาท) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาลงไปทดสอบระดับตํ่าสุดที่ $170.10(~5,470 บาท) อีกครั้ง
ข้อมูล: bitkub.com