รีเซต

นายกฯ เชื้อสายเอเชียคนแรก ‘ริชี ซูนัค’ ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่

นายกฯ เชื้อสายเอเชียคนแรก ‘ริชี ซูนัค’ ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่
TNN ช่อง16
25 ตุลาคม 2565 ( 13:07 )
63
นายกฯ เชื้อสายเอเชียคนแรก ‘ริชี ซูนัค’ ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่

---ซูนัคเปิดประวัติศาสตร์ใหม่---


ริชี ซูนัค วัย 42 ปี กำลังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น 


การเป็นนายกรัฐมนตรีเชื้อสายอินเดียหรือเอเชียคนแรกของอังกฤษ

นายกรัฐมนตรีที่นับถือศาสนาฮินดูคนแรกของประเทศ 

นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 210 ปี

นักการเมืองที่ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรวดเร็วที่สุด ในยุคสมัยใหม่โดยใช้เวลาเพียง 7 ปี นับจากได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 

นายกรัฐมนตรีคนแรกในรัชสมัยของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 


ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 57 ซึ่งถือนายกรัฐมนตรีคนของพรรครัฐบาลอนุรักษนิยม คนที่ 5 ในรอบ 6 ปี จะต้องเผชิญความท้าทายในการสร้างเสถียรภาพ หลังจากอังกฤษประสบกับความยุ่งเหยิงทางการเมือง และความผันผวนของตลาดเงินครั้งประวัติศาสตร์ และต้องบริหารเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย


การก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองของชายเสื้อสายเอเชียที่นับถือศาสนาฮินดู จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญของพัฒนาการของอังกฤษ ในการเป็นสังคมที่มีความหลากหลายวัฒนธรรมและความเชื่อ




---นั่งเก้าอี้ผู้นำในเทศกาลดิวาลี---


ทั้งนี้ ซูนัคได้รับการยืนยันนั่งเก้าอี้ผู้นำอังกฤษในวันเทศกาลดิวาลี หรือเทศกาลแห่งแสงสี หนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวฮินดูทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นใหม่และชัยชนะของความดีเหนืออธรรม


เมื่อสองปีที่แล้ว ครั้งที่ซูนัคเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เขาได้จุดเทียนเนื่องในเทศกาลดิวาลี ที่หน้าประตูบ้านเลขที่ 11 ถนนดาวนิ่ง ซึ่งเป็นทำเนียบทางการของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และกล่าวว่า นี่คือหนึ่งในความภาคภูมิใจที่สุดที่เขาสามารถทำสิ่งนี้ได้ที่บันไดด้านหน้าทำเนียบ 


อีกทั้งซูนัคยังเคยกล่าวว่า ความเชื่อนั้นทำให้เขาแข็งแกร่ง ทำให้เขามีเป้าหมาย และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นเขาในวันนี้


ขณะที่ในปี 2017 ตอนที่ซูนัค สาบานตนต่อรัฐสภา เขายังทำพิธีต่อภควัทคีตา คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูด้วย


---ความหลากหลายของสังคมอังกฤษ---


ซุนเดอร์ คัตวาลา นักเคลื่อนไหวด้านชาติพันธุ์จากองค์กร British Future กล่าวกับ The Guardian ว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่สามารถเป็นจริงได้ หากอยู่ในทศวรรษที่แล้ว หรือสองทศวรรษที่แล้ว 


นี่คือการแสดงให้เห็นว่า การรับใช้ประชาชนในตำแหน่งที่สูงที่สุดของอังกฤษนั้นเปิดกว้างสำหรับผู้คนในทุกความเชื่อและชาติพันธุ์ และเป็นความภาคภูมิใจของคนอังกฤษเชื้อสายเอเชีย ที่อาจไม่ได้เชื่อในการเมืองแบบอนุรักษ์นิยมอย่างนายซูนัคด้วยซ้ำ


ด้าน ทารีค โมดุด นักวิชาการด้านสังคมศาสตร์และการเมืองของมหาวิทยาลัยบริสทอล กล่าวว่า การที่ซูนัคได้เป็นนายกรัฐมนตรี กลายเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ความความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเท่าเทียมกันทางชาติพันธุ์ ซึ่งเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ทุกคนคาดคิด และไม่มีใครคิดด้วยซ้ำว่า นายกรัฐมนตรีจากชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยจะมาจากพรรคอนุรักษ์นิยม


ทั้งนี้ บิดามารดาของซูนัคนั้นมีเชื้อสายอินเดีย พ่อของเขาเกิดที่เคนยา ส่วนแม่เกิดที่แทนซาเนีย และต่อมาย้ายมายังสหราชอาณาจักรในช่วงปี 1960 


---เปิดประวัติ ‘ริชี ซูนัค’---


ซูนัคเติบโตที่เมืองเซาธ์แธมป์ตัน ได้รับการศึกษาที่โรงเรียนเอกชนวินเชสเตอร์ และต่อมาที่คณะปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เขาเคยทำงานที่ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ และต่อมาในปี 2009 เข้าพิธีสมรสกับอัคชาตา เมอร์ฟีย์ บุตรสาวของมหาเศรษฐีอินเดีย นารายานะ เมอร์ฟีย์ เจ้าของบริษัท Infosys


อัคชาตาถือครองหุ้นราว 0.93% ของ Infosys คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 500 ล้านปอนด์ และเธอยังถือหุ้นในหลายบริษัทในอังกฤษด้วย แต่ด้วยช่องโหว่ทางกฎหมาย ทำให้เธอเสียภาษีในสหราชอาณาจักรเป็นจำนวนน้อย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และต่อมาจึงลดแรงกดดันด้วยการประกาศว่า จะจ่ายภาษีให้แก่สหราชอาณาจักรจากรายได้ที่มาจากต่างประเทศ


ซูนัคได้รับเลือกตั้งเป็นส..ของพรรคอนุรักษ์นิยม ครั้งแรกในปี 2015 และในปี 2020 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ภายใต้รัฐบาลบอริส จอห์นสัน ก่อนที่จะลาออกในเวลาต่อมา จากความขัดแย้งแนวทางเศรษฐกิจกับจอห์นสัน


โดยซูนัคใช้เวลาเพียง 7 ปี จากการเป็นส.ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม และนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร และยังถือเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศด้วย


ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ได้แสดงความยินดีต่อซูนัคแล้วเช่นกัน โดยเขาทวีตข้อความว่า เขาตั้งหน้าตั้งตารอทำงานใกล้ชิดกับนายซูนัคในประเด็นต่าง  ของโลก สุขสันต์เทศกาลดิวาลีไปยัง “สะพานที่มีชีวิต” ของชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียทุกคน ที่เราได้เปลี่ยนแปลงสายสัมพันธ์ในอดีตไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนที่ทันสมัย

—————

แปล-เรียบเรียงธันย์ชนก จงยศยิ่ง 

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง:

12

ข่าวที่เกี่ยวข้อง