ส่งสัญญาณลดวันกักตัว เข้าทางท่องเที่ยว-นิคมฯ

ทันหุ้น – ท่องเที่ยวรอเฮ “พิพัฒน์” ชงศบค.พิจารณาArea Quarantine กักตัวในห้องพักแค่ 3 วัน แห่ยื่นเข้าร่วม 6,500 ห้อง พร้อมประสานสธ.เกาะติดVaccine Passport ด้าน “นพ.ทวีศิลป์” แย้ม ศบค.พร้อมพิจารณาลดวันกักตัว ด้านนักวิเคราะห์ชูหุ้นต่างชาติเข้าไทย ทั้ง สนามบิน, ท่องเที่ยว, และนิคมอุตสาหกรรม ชู AOT, MINT, CENTEL, WHA, และ AMATA

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ให้จัดทำ “แอเรียควอรันทีน” (Area Quarantine)โดยจะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ากักตัว่ภายในห้องพัก 3 วันแรก จากนั้นอีก 11 วันที่เหลือสามารถออกมาใช้ชีวิตนอกห้องพักได้ แต่ยังต้องอยู่ภายในบริเวณโรงแรมเท่านั้น

สำหรับโรงแรมที่แสดงความจำนง พร้อมเข้าร่วมโครงการ Area Quarantine ขณะนี้กระจายอยู่ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย 1.ภูเก็ต 24 แห่ง คิดเป็นจำนวน 2,752 ห้อง, 2.กระบี่ 7 แห่ง จำนวน 1,024 ห้อง, 3.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) 10 แห่ง จำนวน 288 ห้อง, 4.ชลบุรี 16 แห่ง จำนวน 2,522 ห้อง, และ 5.เชียงใหม่ 1 แห่ง จำนวน 130 ห้อง  รวมจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 6,500 ห้อง รวมจำนวนพนักงานโรงแรม 13,000 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอให้ได้รับการฉีดวัคซีนในกลุ่มแรก

ขณะเดียวกัน กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการรติดตามประกาศมาตรฐานกลางขององค์การอนามัยโลก เรื่องการออกวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) หรือการออกหนังสือเดินทางให้กับต่างชาติที่แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนแล้วของบุคคลนั้นๆ ให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ เพื่อนำมากำหนดมาตรการให้สอดรับกับมาตรฐานดังกล่าว

“ระหว่างที่ต้องรอความชัดเจนของวัคซีนพาสปอร์ตนั้น ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ เพื่อรองรับ-อำนวยความสะดวก และสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาให้ได้มากที่สุด รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยด้วย”

@ศบค.พร้อมพิจารณาลดวันกักตัว

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า การดำเนินงานของ ศบค.จะต้องมีหน่วยงาน “ต้นเรื่อง” เสนอมาตรการใดๆ เข้ามา จากนั้น ศบค.จะทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพิจารณาแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการที่เสนอมา พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้ปรับปรุงให้มีความปลอดภัยสูงสุดกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอขอปรับลดระยะเวลาการกักตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาเป็นระยะ ซึ่งทางศบค.ได้ให้คำแนะนำให้ไปปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ตามลำดับ คาดว่าเมื่อมีความชัดเจนทางกระทรวงฯ ก็คงพิจารณาเสนอกลับเข้ามา ซึ่งทางศบค.ชุดเล็กก็พร้อมที่จะพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่ตามขั้นตอน”

@โผหุ้นอานิสงส์ต่างชาติ

นายธีระพล อุดมเวศย์  นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุ การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่พึ่งพานักลงทุน – นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยอาจเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วย “วัคซีนพาสปอร์ต” (Vaccine Passport) ได้ในช่วงต้นไตรมาส 3/2564 จากเดิมที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 หรือไตรมาส 4/2564 เป็นต้นไป ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์เป็นกลุ่มแรกคือ AOT, MINT, CENTELจากนั้นจะเป็นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมทั้ง WHA, AMATA

“พัฒนาการการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก, ในประเทศ รวมถึงความพยายามภาครัฐที่จะผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้สะดวกขึ้น เป็นปัจจัยหนุนหุ้นทุกกลุ่มที่พึ่งพายอดขายต่างชาติ แต่เมื่อยังคงต้องมีการกักตัวกลุ่มที่จะได้รับอานิสงส์ก่อนคือ AOTซึ่งเป็นทางผ่านของนักเดินทางไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจ, กลุ่มโรงแรมซึ่งเป็นสถานกักตัวทางเลือกที่สามารถสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ที่ต้องกักตัว จากนั้นเมื่อเดินทางภายในประเทศได้แล้วก็สามารถติดต่อธุรกิจได้โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม”

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1