ปะทะเดือดชายแดนแม่สอด พม่ารบกะเหรี่ยง ชาวไทยหลบกระสุนวุ่น ส่งตัวผู้ลี้ภัยล้มเหลว ตกค้างเกือบ 2,000
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ จ.ตาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา บ้านดอนไชย ต.แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก พบราษฎรไทยต่างวิ่งเข้าหลบหนีเข้าที่กำบังบริเวณบ้านที่อยู่อาศัย หลังเกิดเสียงอาวุธปืนหนัก และอาวุธประจำกายจากการปะทะกันระหว่างทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกับทหารรัฐบาลเมียนมาขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่บ้านเลเตอก่อ จ.เมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันอย่างหนัก
โดยฝ่ายทหารเมียนมาพยายามยิงกระสุนปืน ค.ลงในหมู่บ้าน และส่งกำลังทหารเข้าไปเพื่อยึดหมู่บ้านคืน แต่ถูกทหารฝ่ายกะเหรี่ยงยิงตอบโต้อย่างหนัก ขณะที่ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ออกตระเวนแนวชายแดน พร้อมตรวจสอบพื้นที่ว่ามีกระสุนลำเข้ามาตกในเขตไทยหรือไม่
นายสมศักดิ์ คำแผง ราษฎรบ้านดอนไชย กล่าวว่า ทหารกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมายังคงสู้รบกันอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา จนถึงเวลา 23.00 น. ต่อมาวันนี้เวลา 11.00 น.เริ่มยิงปะทะกันอีก และปะทะหนักกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกตนและชาวบ้านต้องใช้บริเวณรอบๆ บ้านเป็นที่กำบัง บางครอบครัวต้องไปจากหมู่บ้านเพื่อไปอยู่ที่บ้านแม่ตาว
อย่างไรก็ตาม หลังไทยส่งผู้ลี้ภัยกลับไปฝั่งเมียนมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุดทราบว่าชาวบ้านฝั่งเมียนมาติดต่อขอกลับมาเขตไทย แต่ไม่มีใครกล้าไปรับเพราะเกรงจะผิดกฎหมาย ซึ่งในวันนี้ฝ่ายไทยยังคงส่งผู้ลี้ภัยกลับไปกว่า 100 คน โดยประสานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา (ทีบีซี) แต่ฝ่ายเมียนมาไม่รับ และไม่รับรองความปลอด โดยประสานกันที่บริเวณท่าข้ามทางธรรมชาติ 2 จุด แต่ฝ่ายเมียนมาไม่รับรองความปลอดภัย ทำให้การส่งผู้ลี้ภัยกลับไปล้มเหลว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสู้รบดังกล่าวมีกระสุนปืนใหญ่ไปตกลงบริเวณบ้านคนไทยที่สร้างไว้ในฝั่งเมียนมาจนเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้คนไทยบางกลุ่มเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินต่างไปยืนดูกันในลักษณะกล้าๆ กลัวๆ สำหรับการสู้รบของทั้งฝ่ายยังคงมีกระสุนอาวุธหนักล้ำเข้ามาเขตไทย ส่วนมากตกลงริมฝั่งแม่น้ำเมย และในสวนป่าใกล้หมู่บ้าน ขณะที่ผู้ลี้ภัยยังอยู่ในเขตไทยราว 1,900 คน