รีเซต

รัฐยะไข่ จะเป็นอีกความปราชัยของกองทัพเมียนมา ต่อจากเมียวดีหรือไม่

รัฐยะไข่ จะเป็นอีกความปราชัยของกองทัพเมียนมา ต่อจากเมียวดีหรือไม่
TNN ช่อง16
7 พฤษภาคม 2567 ( 09:53 )
10
รัฐยะไข่ จะเป็นอีกความปราชัยของกองทัพเมียนมา ต่อจากเมียวดีหรือไม่

กองกำลังฝ่ายต่อต้าน อ้างว่าได้จับเชลยศึกทหารกองทัพเมียนมาหลายร้อยคนได้ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ หากข้อมูลจริง จะถือเป็นอีกความปราชัยของกองทัพเมียนมา นับแต่สูญเสียเมืองเมียวดี ให้กองกำลังฝ่ายต่อต้านนำโดยชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง 

 

สมรภูมินี้ ไม่ได้เป็นการต่อสู้ระหว่างกองทัพเมียนมากับฝ่ายกะเหรี่ยง แต่เป็นกับกองกำลังอาระกัน หรือยะไข่ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ สองฝ่ายนี้ต่อสู้กันมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังกองกำลังอาระกันโจมตีกองทัพเมียนมา ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่ดำเนินมาตั้งแต่การรัฐประหารปี 2021 สิ้นสุดลง

 

แม้ฝ่ายกองทัพจะยังควบคุมเมืองหลักซิตตเวไว้ได้ แต่กองกำลังอาระกัน ได้ไล่ยึดครองพื้นที่รอบเมืองเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ 

 

วิดีโอที่ฝ่ายสื่อของกองกำลังอาระกันเผยแพร่ออกมานี้ มีเนื้อหาว่า พวกเขาได้ควบคุมตัวทหาร “หน่วยปฏิบัติการที่ 15” รวมถึงรองผู้บัญชาการหน่วย ใกล้กับเมืองบูตีต่อง ทางเหนือของเมืองซิตตเวไปราว 90 กิโลเมตร

 

นี่จะใช่ภาพเชลยศึกเมียนมาจริงหรือไม่นั้น ฝ่ายกองทัพยังไม่ออกมายืนยันว่า มีทหารถูกจับกุมจริง และในวิดีโอไม่ได้ระบุว่า จับกุมทหารเมียนมาเหล่านี้ได้ที่ไหน แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เกิดการปะทะกันใกล้พื้นที่เมืองบูตีต่องหลายครั้ง เอเอฟพีเองพยายามติดต่อโฆษกกองทัพเมียนมา แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ

 

“ความปราชัยอย่างสิ้นเชิง” คือคำที่กองกำลังอาระกันประกาศว่า เป็นสิ่งที่กองทัพเมียนมาเผชิญ หลังการสู้รบครั้งล่าสุด และบอกว่า ภาพชายในชุดทหาร เดินเท้าเปล่าต่อแถวยาวผ่านไร่นา ก็เป็นเชลยศึกที่พวกเขาควบคุมตัวไว้ได้ สภาพบางคนเดินกะเผกและมีผ้าพันแผล บางคนต้องนอนบนเปลสนาม ก่อนที่ท้ายวิดีโอ จะเป็นภาพชายกว่า 200 คนนั่งเรียงแถวกัน โดยมีชายพร้อมอาวุธปืนควบคุมอยู่

 

สำหรับกองกำลังอาระกันนั้น เป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ ในแถบพรมแดนของเมียนมา สมาชิกหลายคนต่อสู้กับกองทัพมานานตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี 1948 แล้ว โดยกองกำลังอาระกันอ้างว่า ต่อสู้เพื่อเอกราชของรัฐยะไข่ 

 

การปะทะกันระหว่างกองกำลังอาระกันและกองทัพเมียนมา เป็นสมรภูมิใหญ่อีกจุดหนึ่งที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง การต่อสู้เมื่อปี 2019 ทำให้กองทัพเมียนมากวาดล้างภูมิภาคนี้ ทำให้คนกว่า 200,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และย้อนไปไกลเมื่อปี 2017 กองทัพได้กวาดล้างชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาในยะไข่ จนถูกสหประชาชาติประณามว่า กองทัพเมียนมากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

 

นับแต่การต่อสู้ระลอกล่าสุดระหว่างกองกำลังอาระกันและทหารเมียนมา ปะทุขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว สมรภูมิได้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ครอบคลุม 15 เมืองจาก 17 เมืองทั่วรัฐ ตามข้อมูลของสหประชาชาติ และการสู้รบเหล่านี้ได้ทำให้ทหารและพลเรือนหลายร้อยคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และมีผู้คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยหลายแสนคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง