สศค.เผยส่งออกและท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค.67 ขยายตัว
สศค.เผยภาคส่งออกและท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค.67 ขยายตัว ขณะที่ อุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว โดยรถยนต์พาณิชย์จดทะเบียนใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 18.5 %
#ทันหุ้น นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ระบุ เศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยังได้รับอนิสงค์จากการขยายตัวของการส่งออกและท่องเที่ยว และการบริโภคและลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ปัญหายังอยู่ในหมวดอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยอดขายยังชะลอ
ทั้งนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน เเต่การบริโภคหมวดสินค้าคงทนในหมวดยานยนต์ยังคงชะลอตัว โดยปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน-27.4% แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 2.0%
ขณะที่ ปริมาณจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.3%และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 6.1 %
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56.0 จากระดับ 55.3 ในเดือนก่อน เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก 1) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 2) ภาคการท่องเที่ยว ขยายตัวต่อเนื่อง และ 3) ราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 4.2%
ขณะที่ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 21.2 %และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่8.8%
ด้านปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -18.5 %แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 5.2%
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนตุลาคม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 15.7 %แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่-0.7
ขณะที่ ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -0.9 %แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 8.0%
มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนตุลาคม อยู่ที่ 27,222.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 14.6 %และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวที่10.7% ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ โดยขยายตัวที่77.5% 44.9% และ 43.0% ตามลำดับ นอกจากนี้ สินค้ายางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง และข้าว ขยายตัวที่32.6 %26.7% 18.2 %และ 10.1 %ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย และรถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบปรับตัวลดลง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นในตลาดอินโดจีน สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และจีนขยายตัว 27.9 %27.5 %25.3% และ8.4 %ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ตลาดทวีปออสเตรเลีย และไต้หวัน หดตัว -14.0 %และ -3.1% ตามลำดับ
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนตุลาคม มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.68 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่21.9% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ -8.1 %โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย
เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคม อยู่ที่ 0.83% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.77% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายนนี้ อยู่ที่ 63.3% ต่อGDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐสำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่238.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ