SCB จัดแคมเปญบัตรเดบิต เอาใจพฤติกรรมคนรุ่นใหม่
ทันหุ้น- SCB วางงบการตลาด 100 ล้านบาท กระตุ้นคนรุ่นใหม่ถือบัตรเดบิตเพิ่มอีก 3 ล้านใบ จากตัวเลขปัจจุบันที่ 10 ล้านใบ ผ่านแคมเปญ “เลือกช้อยส์ที่ใช่ไว้ใช้ชีวิต” มองตลาดบัตรเดบิตเติบโตสูงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังเกิดโควิด-19
นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้ามีบัตรเดบิตใหม่เพิ่มขึ้น 3 ล้านบัตร จากปัจจุบัน 10ล้านบัตร และ คาดว่าจะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเพิ่มขึ้น 30%จากปัจจุบันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 บาทต่อเดือนต่อบัตร โดยธนาคารได้ตั้งงบการตลาดบัตรเดบิตปีนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการใช้จ่ายชำระสินค้า และ บริการต่างๆ ผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น ซึ่งหนุนให้ภาพรวมตลาดบัตรเดบิตของไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวมากยิ่งขึ้น
กระตุ้นใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต
ทั้งนี้ SCB ยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Yong Gen) ล่าสุดธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่บัตรเดบิต "Lets SCB Mastercard" โดยร่วมมือกับ มาสเตอร์การ์ด เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด "เลือกช้อยส์ที่ใช่ไว้ใช้ชีวิต" ซึ่งสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรได้ใน 3 หมวดหลัก คือ กิน-ช้อป-เพลย์ เพื่อแก้ Pain point ของลูกค้าบัตรเดบิตที่ส่วนมากจะมีสิทธิประโยชน์ที่ไม่ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ถือบัตร
นอกจากนี้ธนาคารยังได้ร่วมกับประกันภัยไทยวิวัฒน์ มอบความคุ้มครองประกันภัย LET’S PROTECT ให้ผู้ถือบัตรเปิด-ปิดตามใจ ฟรี 20 ชั่วโมง ใน 4 กลุ่มความคุ้มครอง ได้แก่ ประกันรถยนต์ ประกันโควิด-19 ประกันเดินทาง และประกันโจรกรรม และยังสามารถเติมชั่วโมงเพิ่มได้ในราคาพิเศษ เพียงไม่ถึง 1 บาทต่อชั่วโมง
“เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ธนาคารใช้กลยุทธ์ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง” ผ่านตัวแทนคนรุ่นใหม่เพื่อช่วยสร้างการจดจำผ่านเอ็กซ์คลูซีฟซิงเกิ้ล “นาทีนี้ LET’S LOVE” และถ่ายทอดสิทธิประโยชน์ของบัตรผ่านการทำตลาดแบบครบวงจร”
SCB เชื่อว่าบัตรเดบิต LET’S SCB Mastercard จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี และด้วยสิทธิประโยชน์สูงสุดกว่า 10,000 บาทต่อปีที่ผู้ถือบัตรสามารถเลือกได้ด้วยตนเองนั้น จะช่วยกระตุ้นให้คนไทยหันมาใช้บัตรเดบิตแทนการใช้เงินสดในชีวิตประจำวันมากขึ้น และก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบต่อไป” นางสาวอรรัตน์ กล่าวเสริม
บัตรเดบิตแนวโน้มเติบโต
ด้านนางสาวไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด กล่าวถึง ภาพรวมตลาดบัตรเดบิตทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทิศทางเดียวกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ก้าวสู่สังคมไร้เงินสด ทั้งนี้ จากการสำรวจ พบว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมามีจำนวนบัตรเดบิตรวมอยู่ประมาณ 64 ล้านใบ หรือ คิดเป็นจำนวนบัตรเกือบ 1 ใบต่อประชากร 1 คน ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำกว่าจำนวนบัตรต่อประชากรทั่วโลกและในเอเชีย-แปซิฟิก
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ส่งผลให้พฤติกรรมของคนไทยในการชำระค้าสินค้ามีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป หลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินสดและหันมาชำระแบบคอนแทคเลสเพิ่มสูงขึ้นกว่า 30%สะท้อนให้เห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดบัตรเดบิตในเมืองไทย
ในส่วนของบัตรเดบิตไทยพาณิชย์มาสเตอร์การ์ด มีอัตราการเติบโตของจำนวนธุรกรรมผ่านบัตรในช่วงปี 2560-2563 ที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 33% ต่อปี และจำนวนธุรกรรมต่อบัตรในปี 63 สูงกว่าปีก่อนหน้ากว่า 25%