6 ไฮไลท์งาน Apple WWDC 2025 ยุคใหม่ของ AI และการออกแบบสุดล้ำ!

งาน WWDC (Worldwide Developers Conference) ของ Apple ประจำปี 2025 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ได้สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศฟีเจอร์และดีไซน์ใหม่ๆ ที่เน้นไปที่ Apple Intelligence (AI) และการปรับโฉมระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่ วันนี้เราจะไปดูกันครับว่าไฮไลท์สำคัญๆ ของงานนี้มีอะไรบ้าง ทีมงาน TrueID เรารวบรวมไว้ให้แล้ว !
1. Liquid Glass: ดีไซน์ใหม่ที่โปร่งใสและพลิ้วไหว
นี่คือไฮไลท์ที่เด่นที่สุดในงาน! Apple ได้เปิดตัว "Liquid Glass" ซึ่งเป็นการปรับโฉม User Interface (UI) ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ iOS 7 ดีไซน์ใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก VisionOS โดยจะทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของ UI เช่น ไอคอนแอป, การตั้งค่า, และแถบเครื่องมือ มีลักษณะ โปร่งใสคล้ายกระจก พร้อมเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวที่ dynamic และตอบสนองต่อการสัมผัสและการเลื่อนของคุณ สีสันของ Liquid Glass ยังปรับเปลี่ยนไปตามเนื้อหาที่แสดงบนหน้าจอ ทำให้ประสบการณ์การใช้งานดูทันสมัยและสวยงามยิ่งขึ้น ดีไซน์นี้จะถูกนำไปใช้กับ iOS 26, iPadOS 26, macOS Tahoe 26, watchOS 26 และ visionOS 26
2. Apple Intelligence: AI อัจฉริยะที่ผนวกรวมในทุกระดับ
Apple Intelligence คือชื่อเรียกความสามารถด้าน AI ที่ถูกฝังลึกเข้าไปในระบบปฏิบัติการต่างๆ ทั่วทั้ง Ecosystem ของ Apple ทำให้ฟีเจอร์ต่างๆ ฉลาดขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไฮไลท์สำคัญคือ:
- Live Translation: ฟีเจอร์การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ที่ทำงานในแอป Messages, FaceTime และ Phone โดยการแปลจะเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ (on-device) เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด และสามารถพิมพ์หรือพูดแล้วให้ AI แปลเป็นภาษาของอีกฝ่ายได้ทันที!
- Visual Intelligence: ได้รับการอัปเกรดให้ฉลาดขึ้น เราสามารถใช้ AI นี้ได้โดยการถ่ายภาพหน้าจอ (screenshot) ของอะไรก็ได้บนหน้าจอ iPhone แล้ว AI จะช่วยวิเคราะห์และแนะนำการดำเนินการต่างๆ เช่น เพิ่มอีเวนต์ในปฏิทิน หรือใช้เพื่อค้นหาข้อมูลบนเว็บ หรือแม้กระทั่งเรียกใช้ ChatGPT เพื่อช่วยแก้ปัญหา
- Genmoji และ Image Playground: เครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ที่ให้คุณสร้างอีโมจิแบบกำหนดเอง (Genmoji) จากคำบรรยายข้อความ หรือผสมผสานอีโมจิเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ Image Playground ยังช่วยให้เราสร้างภาพตามสไตล์ต่างๆ เช่น ภาพวาดสีน้ำมัน หรือ Vector Art และสามารถปรับแต่งภาพบุคคลได้ เช่น เปลี่ยนการแสดงออกหรือทรงผม
- Smarter Shortcuts: แอป Shortcuts ได้รับการอัปเกรดด้วย AI ทำให้สามารถทำงานอัตโนมัติที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น เช่น สรุปข้อความ หรือดำเนินการหลายขั้นตอนพร้อมกัน
- Call Screening & Hold Assist: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับแอป Phone ที่ช่วยคัดกรองสายเรียกเข้าจากสแกมเมอร์ และ Hold Assist ที่จะแจ้งเตือนคุณเมื่อสายที่รอค้างถูกรับแล้ว
3. iOS 26: การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับ iPhone
นอกจากการออกแบบ Liquid Glass และ Apple Intelligence แล้ว iOS 26 ยังมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้:
- Messages Improvements: สามารถสร้างโพลล์ใน Group Chat ได้ และมีการปรับปรุงการส่งข้อความให้มีตัวเลือกจัดรูปแบบข้อความ (Bold, Underline, Italics) และเอฟเฟกต์ข้อความมากขึ้น
- Lock Screen และ Home Screen Changes: มีวิดเจ็ตเวลาและวันที่แบบ Liquid Glass, ไอคอนแอปที่ออกแบบใหม่ให้ดูแตกต่างจาก Wallpaper ได้ดีขึ้น และวิดเจ็ตนาฬิกาที่ปรับขนาดได้
- Pin Favorite in Apple Music: ผู้ใช้ Apple Music สามารถปักหมุดเพลย์ลิสต์, อัลบั้ม, หรือศิลปินคนโปรดไว้ด้านบนสุดของ Library ได้
- Games App: แอป Games ใหม่ที่รวบรวมเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียว
- Camera App Improvements: ปรับปรุง UI ให้ใช้งานง่ายขึ้น เข้าถึงโหมดถ่ายภาพและวิดีโอหลักๆ ได้รวดเร็วขึ้น
4. iPadOS 26: iPad ที่ใกล้เคียง Mac มากขึ้น
iPadOS 26 นำเสนอการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญ ดังนี้เลย:
- Improved Multitasking (Windowing System): ระบบการจัดการหน้าต่างแบบใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับขนาด จัดเรียง และจัดการหน้าต่างแอปหลายๆ อันได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับ Expose และ Stage Manager
- Revamped Files App: แอป Files ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มุมมองไฟล์ที่ปรับแต่งได้ และเพิ่มทางลัดโฟลเดอร์ใน Dock
- Preview App: แอป Preview ที่เคยอยู่บน macOS ก็มาอยู่บน iPadOS แล้ว รองรับการมาร์กอัป PDF และรูปภาพด้วย Apple Pencil
5. macOS Tahoe 26: ความสามารถใหม่สำหรับ Mac
macOS Tahoe 26 ยังคงรักษาการตั้งชื่อตามสถานที่ท่องเที่ยว แต่มาพร้อมกับฟีเจอร์สำคัญตามนี้เลย:
- Phone App on Mac: แอป Phone ที่มาพร้อม Call Screening และ Hold Assist เหมือนบน iOS/iPadOS
- Passwords App: แอป "Passwords" แบบสแตนด์อโลนใหม่ที่รวบรวมรหัสผ่านและข้อมูลรับรองต่างๆ ไว้ในที่เดียว (คล้ายกับ 1Password หรือ LastPass)
6. CarPlay และ AirPods ก็ได้รับการอัปเกรด
- CarPlay: ได้รับการอัปเดตด้วยมุมมองการโทรแบบกะทัดรัดใหม่, การปรับปรุง Messages, วิดเจ็ต และ Live Activities เพื่อประสบการณ์ในรถยนต์ที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น
- AirPods: ได้รับคุณสมบัติใหม่ๆ ที่มาพร้อม iOS 26 เช่น Live Translation และการปรับปรุงเฟิร์มแวร์
อุปกรณ์ที่รองรับ และการปล่อยอัปเกรด
- iOS 26 จะรองรับ iPhone 11 และรุ่นที่ใหม่กว่า
- เวอร์ชันเบต้าสำหรับนักพัฒนาของ iOS 26, iPadOS 26, macOS Tahoe 26 และอื่นๆ ได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว
- เวอร์ชัน Public Beta จะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2568
โดยรวมแล้ว WWDC 2025 เป็นงานที่เน้นย้ำถึงการก้าวเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัวของ Apple ด้วยการผสาน Apple Intelligence เข้าไปในทุกส่วนของระบบ พร้อมกับการปรับโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ประสบการณ์การใช้งานดูสดใหม่และล้ำสมัยยิ่งกว่าเดิม ใครที่ใช้ iDevices รออัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ กันได้เลยจ้า !
ขอบคุณข้อมูลจาก Apple NewsRoom