"จุรินทร์"ช่วยชาวพังงา เร่งงบซ่อมแซมสระว่ายน้ำ พร้อมออนทัวร์ติดตาม 4 โครงการ

วันที่ 31 มีนาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการบํารุงรักษาสระว่ายนํ้าจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วยนายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางสาวปภัสมน อัมราลิขิต ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.พังงา นายบำรุง ปิยนามวนิช อดีตนายก อบจ.พังงา ที่โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา ตําบลนาเตย อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สระว่ายน้ำนี้คนที่จัดมาคือนายจุรินทร์ตอนเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกฯกับกับดูแลการกีฬาแห่งประเทศไทยในยุคนั้นจัดตั้งสำนักงานกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ ครบทุกจังหวัด และเป็นครั้งแรกที่จังหวัดพังงามีโอกาสเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติ หรือ”พังงาเกมส์” ตนเลยเอางบประมาณมาสร้างสำนักงานกีฬาจังหวัดพังงา และช่วงหลังโอนให้ อบจ.ดูแล นอกจากนั้นตนได้จัดงบประมาณมาช่วยดูแลสนามกีฬาอำเภอเกือบทุกอำเภอ เช่น สนามกีฬาอำเภอกะปง และที่โรงเรียนทับปุดวิทยา และสนามเทนนิสที่ตะกั่วป่า เป็นต้น ส่วนท้ายเหมืองได้มาทำสระว่ายน้ำในสมัยนั้นประมาณ 18.9 ล้านบาท ช่วงปี 40-43 และผู้อำนวยการโรงเรียนได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานจังหวัดตั้งแต่ปี 62 ขอซ่อมแซมสระว่ายน้ำ ตนมาทราบตอนหลังว่ายังไม่คืบหน้า

สุดท้ายตนประสานและสั่งการเคลียร์ปัญหาว่ายังเป็นของการกีฬาเพราะสระว่ายน้ำนี้เป็นสระว่ายน้ำของอำเภอท้ายเหมืองที่การกีฬาเอางบมาสร้างและยังมีหน้าที่ต้องดูแลต่อไป แต่ให้โรงเรียนช่วยบริหารจัดการและสระว่ายน้ำนี้เป็นของอำเภอคนที่มาใช้ประโยชน์คือ 1.นักเรียน 2.เยาวชนในอำเภอควรมีสิทธิ์มาใช้บริการ และ3.ประชาชนทั่วไปต้องมาใช้บริการได้ จะได้คุ้มค่าแม้อยู่ในโรงเรียน แต่ต้องบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย เพราะกำลังจะมีงบมาช่วยซ่อมแซมปรับปรุง ตนประสานกับการกีฬาแห่งประเทศไทยว่าจะซ่อมแซมปรับปรุงอย่างไรให้อยู่ในสภาพดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุด และเมื่อเสร็จแล้วหาข้อยุติว่าสระว่ายน้ำนี้ต่อไปใครจะดูแล การกีฬาจะไปออกแบบซ่อมบำรุงและหลังจากเสร็จแล้วจังหวัด ติดตามรายงานความคืบหน้า ว่าใครจะบำรุงรักษาต่อไปโดยใช้ขั้นตอนให้สั้นที่สุด โดยสิ้นเดือนเมษายนการกีฬาจะประเมินได้ว่าโครงการนี้ต้องทำอะไรบ้างใช้งบประมาณเท่าไหร่

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ได้มาประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญ 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการเขาหลักปาร์ค ที่ได้งบประมาณ 80 ล้านบาทจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอท้ายเหมืองและอำเภอตะกั่วป่าในอนาคต 2.โครงการตลาดน้ำคลองบางเนียง ที่ตำบลคึกคัก ซึ่งกำลังออกแบบ 3.ติดตามความคืบหน้าการสร้างสะพานข้ามเกาะคอเขา ตอนนี้ได้งบประมาณมา 14 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะศึกษาเสร็จในช่วงกันยายนนี้

และ 4. โครงการสนามบินพังงา ความคืบหน้าล่าสุด ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานภูเก็ตรายงานว่า กำลังจ้างบริษัทศึกษาผลคุ้มค่าทางเศรษฐกิจว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ ลงทุนเท่าไหร่ รวมถึงกระทบทั้งหมด คาดว่าจะเสร็จเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยสนามบินพังงาถ้าเสร็จแล้วจะมีรันเวย์กว้างและยาวกว่าสนามบินภูเก็ต มีรันเวย์กว้าง 60 เมตร 2 เลนความยาว 4,000 เมตร ใช้พื้นที่ประมาณ 3,000-4,000 ไร่ จะเป็นสนามบินที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ แล้วจะเข้าบอร์ดการท่าอากาศยานและเข้า ครม.จากนั้นการท่าจะสามารถลงทุนได้ ถ้าเสร็จแล้วจะจุผู้โดยสารได้มากกว่าถึงภูเก็ต 1 เท่า ที่ภูเก็ตจุได้ 12.5 ล้านคน แต่ก่อนเกิดโควิดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึงปีละ 15 ล้านคน และพังงาจะสามารถจุผู้โดยสารได้ถึงปีละ 25 ล้านคน ใช้เงินประมาณ 100,000 ล้านบาทโดยประมาณเป็นจะโครงการที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด