BEM ราคาหุ้น+2% โบรกมีมุมมองเชิงบวก
#BEM #ทันหุ้น – บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจ้งผลการดำเนินงานปี 2567 กำไรสุทธิ 3,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ราคาหุ้น BEM ปรับเพิ่มขึ้น 2.46% ในการซื้อขายครึ่งวันเช้าวันที่ 27 ก.พ. ราคาเคลื่อนไหวในช่วง 6.05-6.50 บาท ก่อนปิดครึ่งวันที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+2.46%) มูลค่าการซื้อขาย 432 ล้านบาท โบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์วันที่ 27 ก.พ. คงมุมมองเชิงบวกให้คำแนะนำ “ซื้อ”
.
บล.ทิสโก้ระบุว่า BEM การเติบโตของรายได้ค่าโดยสารเทียบกับค่าใช้จ่าย ผลประกอบการยังคงเป็นไปตามคาด
บล.ทิสโก้คาดการณ์ว่ากำไรจะสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะยังคงเติบโตที่ +8.6% ในปีนี้ ขับเคลื่อนโดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพื้นที่ และการเปิด One Bangkok และ Dusit Central Park ปริมาณการจราจรควรจะทรงตัวแต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3 - ดาวคะนอง เสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน ดังนั้น เราคาดว่า BEM จะทำกำไรสูงสุดใหม่สำหรับปี 2568 ที่ 3,964 ล้านบาท
บล.ทิสโก้คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BEM ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 11.00 บาทเนื่องจากผลประกอบการเป็นไปตามคาด บล.ทิสโก้ยืนยันการคาดการณ์และมูลค่ายุติธรรมตามวิธี SOTP ที่ 11 บาท ทั้งนี้ ยังไม่รวมโครงการที่อาจเกิดขึ้น เช่น งาน M&E สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้ และโครงการ Double Deck ซึ่งควรจะสรุปในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงสำคัญคือ การจราจรบนทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์
.
บล.บัวหลวงระบุว่า BEM กำไรไตรมาส 4/67 เป็นไปตามคาด คาดปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสหน้า แนวโน้มคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 1/68 จะเติบโต YoY และ QoQ หนุนจากจำนวนผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้น และค่าโดยสาร MRT เฉลี่ยที่สูงขึ้น
บล.บัวหลวงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 4,319 ล้านบาท(เพิ่มขึ้น 15% YoY) คาดการณ์การเติบโตของกำไรหลักในไตรมาส 1/68 และแนวโน้มกำไรที่มั่นคงในระยะยาวน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้เรามองเห็นโอกาสของ BEM ในการพัฒนาธุรกิจผ่านการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในประเทศไทย บล.บัวหลวงจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
.
บล.เอเซียพลัสระบุว่ากําไรไตรมาส 4/67 ทรงตัวจากการบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทุกธุรกิจหลักมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในปี 2568 ในรูปแบบ organic Growth ตามการขยายตัวของเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น โดยธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์จะมีการเติบโตมากที่สุดจากแผนเพิ่มพื้นที่สื่อโฆษณาและการอัพเกรดพื้นที่ Metro Mall
โอกาสการเติบโตในอนาคตมีมากขึ้นจากโครงการสัมปทานใหม่ๆ ทั้งที่เซ็นสัญญาแล้วคือสัญญาการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงสัมปทานใหม่ที่น่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ คือ โครงการทางด่วนชั้นที่ 2 และสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้
แม้ราคาหุ้นถูกกดดัน หลายมาตรการรัฐที่อาจส่งผลต่อรายได้ของ BEM แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า BEM จะได้รับการชดเชยส่วนต่างคืนในระดับใกล้เคียงเดิม ขณะที่พื้นฐานบริษัทมีความแข็งแกร่งมาก ให้น้ำหนัก Outperform ราคาเหมาะสมวิธี DCF ได้ที่ 10.60 บาท
.
บล.กรุงศรีระบุว่ากำไรไตรมาส 4 ปี 2567 ต่ำกว่าคาดเพราะ SG&A ที่สูงขึ้น
ราคาหุ้นทรุดตัวลงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา คาดว่าสะท้อนกำไรไตรมาส 4 ปี 2567 ที่อ่อนแอ (ต่ำกว่าประมาณการของเรา 2%) ความล่าช้าในโครงการทางด่วนสองชั้น และการเติบโตของกำไรที่อาจชะลอตัวลงในปี 2568 ไปพอสมควรแล้ว ดังนั้น บล.กรุงศรีจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ราคาเป้าหมายและประมาณการกำไรปี 2568 อยู่ระหว่างการทบทวนเนื่องจากการเติบโตของรายได้ที่ชะลอตัวลงในทั้งสองหน่วยธุรกิจหลักมากกว่าคาด ได้แก่ ทางด่วนและรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
BEM ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น (XD วันที่ 11 มีนาคม) เท่ากับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.5% สำหรับระยะเวลาการถือครอง 2สัปดาห์