เช็กเลย! วิธีรับเงินจาก E-Voucher 7,000 บาท "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ทำอย่างไร
ภายใต้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ผ่านโครง ยิ่งใช้ยิ่งได้ นั้นรัฐบาลได้ตั้งงบไว้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท โดยหวังว่าจะช่วยประคองเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 ของปีนี้ ผ่านผู้มีกำลังซื้อสูงให้นำเงินออกมาใช้จ่าย และคาดว่าจะมีผู้ร่วมโครงการประมาณ 4 ล้านคน จากกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ 6 ล้านคน และคาดว่าจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากโครงการนี้ 2.4 แสนล้านบาท
โดยมาตรการดังกล่าวจะกำหนด E-Voucher ให้ประชาชนที่ร่วมโครงการแทนเงินสด แต่จะได้สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาท โดยผู้ที่ร่วมโครงการจะได้รับ Voucher ช่วง ก.ค.-ก.ย.2564 เพื่อใช้จ่ายเดือน ส.ค.-ธ.ค.2564 ด้านกำหนดเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 21 มิ.ย. 2564 เวลา 06.00 – 22.00 น.
ผู้ที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินเป็น E-Voucher
สำหรับ E-Voucher หรือ บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ ที่รัฐบาลจะแจกให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ โดยจะให้ในมูลค่า 5,000-7,000 บาทต่อคนต่อวัน เพื่อนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าค่าอาหารเครื่องดื่ม และค่าบริการต่างๆ กับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และเป็นโครงการที่ต้องลงทะเบียนใหม่
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้
- ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน
- ต้องไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
- ต้องไม่เป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ (ผู้พิการ,ผู้สูงอายุ)
- ต้องไม่เป็นผู้ใช้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3
- ต้องจับจ่ายในร้านค้าที่จดทะเบียน VAT เท่านั้น
สรุปก็คือผู้ที่จะเข้ารวมโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องไม่เคยใช้ ม.33เรารักกัน เราชนะ คนละครึ่งเฟส 3 หรือเป็นผู้ถือบัตรคนจนได้มาก่อน
วิธีสมัครโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้
สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 21 มิถุนาย 2564 นี้
วิธีรับเงินจาก E-Voucher 7,000 บาท
วิธีการใช้สิทธิ ผู้มีสิทธิจะต้องชำระเงินผ่าน G-Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง ในการซื้อสินค้าและบริการกับผู้ประกอบการร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และทางฝั่งผู้ประกอบการร้านค้าก็จะต้องติดตั้งแอปฯ ถุงเงิน เพื่อเข้าร่วมโครงการด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการได้ E-Voucher ของโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ เต็มจำนวน 7,000 บาทนั้น จะต้องมีการใช้จ่ายสูงสุดตั้งแต่ 60,000 บาท โดยจะต้องใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการก่อน หลังจากนั้นรัฐมจึงจะคืนเงินให้ 10-15% ของค่าใช้จ่ายนั้นๆ