สรุปข่าวโควิดวันนี้ คาด XBB.1.5 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ระบาดทั่วโลกในปี 66
ผู้ป่วยโควิด-19 ในจีนยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บุคลากรการแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆ ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการหนัก เช่นที่ โรงพยาบาลจงต้า ในเมืองหนาน ผู้ป่วยโควิด-19 เข้าห้องไอซียูอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งร้อยละ 80 ของผู้ป่วย อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว
ส่วนโรงพยาบาลเมืองฉางชา ในมณฑลหูหนาน ได้ขยายห้องดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหายใจผิดปกติอย่างรุนแรง ด้วยการเสริมเตียง 440 เตียง ขณะที่กรุงปักกิ่ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เปิดคลินิกหลายแห่งที่โรงพยาบาลสนาม สนามกีฬา และศูนย์การแสดงสินค้า เพื่อรักษาดูแลผู้ป่วยโควิด-19
ทั้งนี้ หลายภูมิภาคในจีนกำลังเผชิญการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลต่างๆ ต้องจัดสรรทรัพยากร และเพิ่มเตียงคนไข้ ส่วนบุคลากรการแพทย์ต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยวิกฤต
ขณะที่วารสารการแพทย์ "นิวอิงแลนด์ เจอร์นาล ออฟ เมดิซีน" (New England Journal of Medicine) เผยแพร่ผลวิจัยยาต้านไวรัสชื่อ "วีวี 116" (VV116) ชนิดรับประทานของจีน ช่วยลดอาการป่วยหนักจากโควิด-19 ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงระดับปานกลาง ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาต้านไวรัส "แพ็กซ์โลวิด" (Paxlovid) หรือ ยา "นีมาทรีเวียร์-รีโทนาเวียร์" (nirmatrelvir-ritonavir)
โดยผลการศึกษาในระยะที่ 3 พบว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยา "วีวี 116" หายป่วย หลังกินยาไป 4 วัน ส่วนผู้ป่วยที่กินยา "แพ็กซ์โลวิด" จะหายป่วย หลังกินยา 5 วัน ซึ่งผลวิจัยนี้ มีขึ้นหลังโควิด-19 แพร่ระบาดระลอกใหม่ทั่วประเทศจีน
คณะนักวิจัย ยังบอกด้วยว่าเนื่องจากอุปทานยา "แพกซ์โลวิด" ทั่วโลกไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นยา "วีวี116" จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ส่วนที่บ้านเรา ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อมูลการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ พบว่า โควิดโอมิครอน “ซุปเปอร์แวเรียนท์ (super-variant) สายพันธุ์ผสม XBB.1.5 แพร่ระบาดเพิ่มเป็น 2 เท่า ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ คาดว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ที่ระบาดไปทั่วโลกในปีนี้
คุณสมบัติสำคัญของ XBB.1.5 คือมีต้นตระกูลจาก BA.2 และกลายพันธุ์จนมีความสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุดสายพันธุ์หนึ่งในปัจจุบัน โดยหลบเลี่ยงต่อภูมิคุ้มกันแบบผสม ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน และการติดเชื้อตามธรรมชาติ ได้ดีกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ถึง 104 เท่า
จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของ XBB.1.5 ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่า XBB.1.5 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่าโอมิครอนทุกสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ ประมาณร้อยละ 109 และเหนือกว่าโอมิครอน BA.5.2.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักแพร่ระบาดในหลายประเทศขณะนี้ ร้อยละ 217 แต่ความรุนแรงของสายพันธุ์นี้ ไม่ต่างจาก XBB อื่น
สำหรับประเทศไทยยังไม่พบการระบาดของสายพันธุ์ XBB.1.5 ส่วนยาที่ใช้ในปัจจุบัน เช่น ยา "โมลนูพิราเวียร์", ยา "แพกซ์โลวิด", ยา "เรมเดซิเวียร์" ยังใช้ต้านโควิดทุกสายพันธุ์ได้ดี
ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการ ได้สรุปแนวทางป้องกันโควิด-19 เตรียมนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 5 มกราคมนี้ เพื่อรองรับนโยบายเปิดประเทศของจีน
จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ยังไม่มีความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้เดินทางจากจีน สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (European CDC) แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง
ขณะที่นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ระบุว่า คนไทยไม่ต้องตื่นกลัวข่าวอาจมีโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่เกิดขึ้นในจีนแล้วมาแพร่ระบาดในไทย เพราะโควิดมีการกลายพันธุ์ต่อเนื่องเพื่อตัวมันให้อยู่รอด สามารถเกิดขึ้นในประเทศไหนก็ได้ไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน เราจึงควรยินดีต้อนรับและปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีนเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ
ถึงเวลาที่เราควรเลิกกลัวโควิด และอยู่ร่วมกับโควิดอย่างมีสติ เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิด อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าแม้เราจะทำทุกอย่างก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ เมื่อติดเชื้อก็รักษากันไป ซึ่งข้อดีของการติดเชื้อ คือ เกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ทำให้มีภูมิคุ้มกันลูกผสม ป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น