รีเซต

เอกชนตั้งเป้าเข็นส่งออกข้าวปีนี้แตะ 7 ล้านตัน - หวังค่าเงินทรงตัวระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ สู้คู่ได้แข่ง

เอกชนตั้งเป้าเข็นส่งออกข้าวปีนี้แตะ 7 ล้านตัน - หวังค่าเงินทรงตัวระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ สู้คู่ได้แข่ง
ข่าวสด
31 มกราคม 2565 ( 18:23 )
36

เอกชนตั้งเป้าเข็นส่งออกข้าว - นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมศุลกากร การส่งออกข้าวในปี 2564 มีปริมาณ 6,117,346 ตัน มูลค่า 107,756.9 ล้านบาท (3,400.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 6.7% แต่มูลค่า ส่งออกลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีการส่งออกปริมาณ 5,734,024 ตัน มูลค่า 116,042.9 ล้านบาท ( 3,731.3 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ขณะที่ การส่งออกข้าวในเดือนธ.ค. 2564 มีปริมาณ 729,138 ตัน มูลค่า 12,523 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกลดลง 3.5% และมูลค่าลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. 2564 ที่มีการส่งออกปริมาณ 755,492 ตัน มูลค่า 12,771 ล้านบาท

เนื่องจาก ในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา การส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งมีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน เพราะประเทศผู้ซื้อได้นำเข้าข้าวไปเป็นจำนวนมากและมีสต๊อกข้าวเพียงพอแล้ว
ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิมีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 31.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากตลาดหลักมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน

โดยในเดือนธ.ค. 2564 มีการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) ปริมาณ 191,801 ตัน โดยส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดประจำ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ เป็นต้น

ขณะที่กลุ่มข้าวขาวมีการส่งออกปริมาณ 305,601 ตัน ลดลง 13.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศแองโกล่า ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ จีน ฟิลิปปินส์ เบนิน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซีเรีย เป็นต้น ส่วนข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 103,125 ตัน ลดลง 36.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดหลัก เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน เบนิน เป็นต้น

สมาคมฯ คาดว่าในเดือนม.ค. 2565 การส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 700,000 ตัน และสมาคมฯ ตั้งเป้าส่งออกในปี 2565 ที่ประมาณ 7 ล้านตัน โดยมีปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อการส่งออก ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งจะส่งผลให้ประเทศผู้นำเข้าในแถบแอฟริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง มีความต้องการบริโภคข้าวและมีกำลังซื้อมากขึ้น

ประกอบกับคาดว่าผลผลิตข้าวของไทยจะมีมากขึ้น และค่าเงินบาทที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวของไทยอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ขณะที่ปัญหาด้าน โลจิสติกส์ที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งมอบข้าวทำได้ตามที่วางไว้

ด้านสถานการณ์ราคาข้าวในช่วงนี้มีแนวโน้มขยับสูงขึ้นเนื่องจากอุปทานข้าวในตลาดเริ่มตึงตัว ขณะที่ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 26 ม.ค. 2565 อยู่ที่ 438 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 398-402, 338-342 และ 358-362 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ ด้านราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 438 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวนึ่งของอินเดีย และปากีสถานอยู่ที่ 368-372 และ 388-392 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง